รบกวนหมอช่วยตอบแบบละเอียดทีนะคะ ตอนนี้กังวลมากเลย มีอะไรกับแฟนเมื่อวานหลั่งนอก แต่ถุงฉีกขาดข้างๆไม่ใช่ตรงกะเปราะ แล้วทานยาคุมฉุกเฉินตาม อยากให้หมอช่วยตอบว่า 1. ถุงยางที่เป็นรูตรงข้างๆ น้ำอสุจิหรือน้ำหล่อลื่น จะไหลย้อนมาได้มั้ย 2.แล้วเสี่ยงท้องแค่ไหนคะ 3.ทานยาคุมในช่วงปจด กำลังจะมา มันจะเลื่อนไปอีกกี่วันคะ แฟนเอาออกมาก่อนแล้วค่อยหลั่ง (ตอนนี้มีตกขาวเเป้งๆเเห้งๆด้วยคะ)

สวัสดีครับ
หมอขอตอบไล่ไปทีละคำถามนะครับ
1. ในกรณีที่ถุงยางอนามัยฉีกขาดทางด้านข้าง น้ำอสุจิหรือน้ำหล่อลื่นก็อาจมีการหลุดลอดออกมาทางรอยรั่วได้ครับ

2. โดยปกติแล้วการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 2-15% ขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการใช้งานครับ ในกรณีนี้ที่ถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วทางด้านข้างเล็กน้อยโดยที่ยังไม่มีการหลั่งโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะอยู่ในช่วง 2-15% นี้แต่ค่อนไปทางสูงครับ แต่ถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะลดลงไปอีก 75-85%

3. ถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินในช่วงที่ประจำเดือนใกล้มา ประจำเดือนก็อาจมีการคลาดเคลื่อนไปได้บ้าง แต่ก็มักไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ครับ ถ้าหากประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปมากกว่านี้ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ตกขาวนั้นเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกคน รวมถึงอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินที่ทำให้ตกขาวมีมากขึ้นได้ครับ ตราบใดที่ตกขาวนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียว เหลือง หรือจับกันเป็นก้อนคล้ายนมบูด หรือทำให้เกิดอาการคัน หรือมีกลิ่นเหม็นก็จะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรครับ รวมถึงการมีตกขาวก็ไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่

หมอแนะนำให้ใจเย็นและรอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน ถ้าหากสุดท้ายแล้วประจำเดือนขาดหายไปจริงๆก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูตามวิธีที่หมอได้แนะนำไปครับ

การใช้ถุงยางอนามัยนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 2-15% ขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการใช้งานครับ ในกรณีนี้ที่ถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วโดยที่ยังไม่มีการหลั่งก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะอยู่ในช่วง 2-15% แต่อาจค่อนไปทางที่สูงครับ

ในกรณีนี้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยการรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลวได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

ถ้าหากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอตรงเวลา หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วประจำเดือนก็มักจะยังมาใกล้เคียงกับกำหนดตามปกติอยู่ครับ

ในกรณีนี้ถ้าหากเลือดที่ออกมามีลักษณะ ปริมาณ และจำนวนวันที่มาใกล้เคียงกับประจำเดือนตามปกติ ก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนจริงได้อยู่ครับ

อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาใช่ประจำเดือนหรือไม่ ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันดูได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากมีประจำเดือนมาแล้วก็จะเป็นการบ่งบอกว่าไม่มีการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีประจำเดือนครับ เนื่องจากถ้าหากมีการตั้งครรภ์เยื่อบุโพรงมดลูกจะต้องเจริญหนาตัวขึ้นเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนและไม่หลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน

แต่ก็อาจมีกรณีที่มีคนพูดว่ามีการตั้งครรภ์ทั้งๆที่มีประจำเดือนมาให้ได้ยินอยู่บ้าง ซึ่งในกรณีนี้ก็น่าจะเป็นเลือดที่ออกจากสาเหตุที่ผิดปกติอื่นๆที่ไม่ใช่ประจำเดือนมากกว่าครับ

ดังนั้นถ้าหากมีเลือดออกมาก็จะต้องมั่นใจด้วยว่าเลือดนั้นมีลักษณะเหมือนประจำเดือนตามปกติจริงๆ และถ้าหากไม่แน่ใจสิ่งที่จะช่วยยืนยันได้ดีที่สุดคือการลองตรวจการตั้งครรภ์ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ในระยะแรกของการตั้งครรภ์นั้นจะทำให้มีอาการขาดประจำเดือนเกิดขึ้นก่อน ส่วนอาการเจ็บเต้านมนั้นไม่ใช่อาการที่จะบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ให้ลองสังเกตประจำเดือนดูเป็นหลัก ถ้าหากประจำเดือนมีการขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

อาการเจ็บจี๊ดๆและคันเต้านมานั้นไม่ใช่อาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ อาการข้างต้นนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการแพ้ของผิวหนัง การติดเชื้อรา การติดเชื้อแบคทีเรีย หรืออาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมเองครับ

หมอแนะนำว่าในตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์และให้รับประทานยาคุมตามปกติไปก่อน เมื่อรับประทานยาคุมหมดแล้วถ้าหากประจำเดือนไม่มาก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มยาแผงใหม่ แต่ถ้าหากประจำเดือนมาตามปกติก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ