สวัสดีครับ ตอนนี้ผมมีอาการชาซีกขวาทั้งซีกอาการนี้เป็นเป็นมาได้สักระยะแล้วครับ แต่สามารถขยับได้ปกติ แล้วก็มีอาการปวดหัวอยู่บ่อยๆ เวลานั่งหรือนอนแล้วลุกขึ้นก็จะหน้ามืดบ่อยมาก ปวดต้นคอบ่าไหล่ ไม่ทราบว่าอาการเหล่านี้เกิดจากอะไร ขอคำแนะนำหน่อยครับ จะได้ไปทำการรักษาได้อย่างถูกต้องและทันเวลา

สวัสดีครับ
อาการชาครึ่งซีกของร่างกายมักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของระบบประสาท เช่น จากความผิดปกติของสมองหรือจากเส้นประสาทไขสันหลังครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์อายุรกรรมระบบประสาทเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

สวัสดีครับ
อาการชา ควรจะต้องหาสาเหตุถ้าเป็นไปได้ครับ
อาการชาของมือและเท้า มีหลายสาเหตุค่ะ คัวอย่างเช่น
1.สาเหตุทางระบบประสาท ไม่ว่าจะเป็น ระบบประสาทส่วนกลาง หรือระบบประสาทส่วนปลายครับ
>>ระบบประสาทส่วนกลาง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น อาการชา อาจจะมีลักษณะ ชาซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย อาจจร่วมกัยมีอสการหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ร่วมด้วย หรือ มีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย บางคนอาจมีปวดหัว หรือถ้าอาการเป็นอย่างเฉียบพลัน อาจมีตามัว อาเจียนพุ่ง ได้ค่ะ ซึ่งถ้ามีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบไป รพ โดยทันทีครับ
นอกจากนี้ ระบบประสาทส่วนกลาง อาจหมายถึงบริเวณของไขสันหลังได้ครับ
การกดทับเส้นประสาทที่ไขสันหลัง ก็อาจทำให้มีอาการชา หรืออ่อนแรงได้เช่นกัน ทั้งนี้ อาการชาจะอยู่ที่แขน หรือขา หรือ ทั้งขาและแขน ขึ้นกับว่าเส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณไหนของกระดูกสันหลังค่ะ ตัวอย่างโรค เช่น การตีบแคบของช่องกระดูกสันหลัง (spinal canal stensosis) หรือ กระดูกทับเส้นประสาท (herniated disc) อาจจะมีอาการเสี่ยงปล้าบลงปลายขาร่วมด้วยก็ได้ค่ะ ความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ เช่น การยอกของหนักบ่อยๆ การออกกำลังกายหนักๆและผิดท่า อุบัติเหตุที่กระดูกสันหลัง เป็นต้นครับ

>>ระบบประสาทส่วนปลาย เช่น การกดทับของเส้นประสาทบริเวณข้อไหล่ ข้อศอก ข้อมือ เป็นต้น หรือ การบาดเจ็บเล็กน้อยของปลายประสาท ทำให้มีอาการชา ล่างต่อปลายประสาทนั้น เช่น ชาปลายมือ หรือขาเป็นยาวนิ้ว เป็นต้น ครับ

2.สาเหตุอื่นๆ เช่น เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ , ภาวะทุพโภชนาการ ,ภาวะเกลือแร่ในเลือดผิดปกติ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การรักษาอาการชา ควรรักษาที่ต้นเหตุ เช่น การให้ยา การผ่าตัด เป็นต้น ซึ่งการรักษาจะแตกต่าวกันไปตามสาเหตุครับ
การให้วิตามิน (วิตามินบี รวม) เป็นการให้การรักษาเสริม ซึ่งให้ผลดี ซึ่งคนไข้อาจลองรัประทานเสริมดูได้ครับ
แต่ถ้าเป็นมากๆ ก็จะไม่สามารถทำให้หายจากอาการขาได้ โดยเฉพทะถ้าสาเหตุนั้น มาจากระบบประสาทส่วนกลางครับ

ดังนั้น แนะนำว่า คนไข้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบะติการอื่นๆเพิ่มเติมครับ