January 26, 2020 20:51
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วประจำเดือนแต่ละรอบควรจะมาห่างกันรอบละ 21-35 วันครับ ถ้าหากประจำเดือนมาติดต่อกันเร็วเกินไปก็มีโอกาสที่จะเป็นเลือดที่ออกมาจากสาเหตุอื่นๆได้ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
เป็นต้น
ซึ่งถ้าหากมีเลือดออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมานั้นถ้าหากไม่มีการป้องกันก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เนที่สุดภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% ครับ
และหลังจากนี้ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ ถ้าเลือดที่ออกมาครั้งที่สองนั้นเป็นประจำเดือนจริง ๆ ก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 5 - 24% ตามผลป้องกันของวิธี "นับวันปลอดภัย หน้า 7 - หลัง 7" ค่ะ
แต่ถ้าเลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ประจำเดือน ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 85% นะคะ
ดังนั้น ถ้าไม่มั่นใจ หรือถ้ารับความเสี่ยงที่มีไม่ได้ ควรพิจารณาการใช้ยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ หากใช้ครบขนาดและทันเวลา อาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้เป็น 15 - 25% แทนได้
และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ควรป้องกันด้วยวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน อย่างเช่น การใช้ถุงยางอนามัย เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ
แต่การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกราน ดังนั้น ต่อไป ถ้ามีประจำเดือนมาก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์และรอให้ประจำเดือนหายดีก่อนค่ะ
..
..
..
ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน + มาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ และประจำเดือนปกติควรจะมาตรงตามรอบเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ซึ่งรอบประจำเดือนปกติก็ควรอยู่ในช่วงเวลา 24 - 35 วันนะคะ
การที่มีประจำเดือนมา 2 ครั้งใน 1 เดือน ยังสรุปไม่ได้ว่าประจำเดือนมาเร็วผิดปกติหรือไม่ เพราะถ้าผู้ถามมีรอบประจำเดือน 28 วัน หากประจำเดือนรอบก่อนมาวันที่ 1 ของเดือน ประจำเดือนรอบถัดไปก็จะมาวันที่ 29 ของเดือนได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ถามมีประจำเดือนมาเร็วผิดปกติ หรือประจำเดือนมามากหรือนานผิดปกติ อาจเสี่ยงต่อการเสียเลือดมากหรือบ่อยครั้งเกินกว่าที่ควรจะเป็น และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประจำเดือนมา2ครั้งในหนึ่งเดือน(พึ่งเป็นเดือนแรก)แล้วมีเพศสัมพันธ์ตอนเป็นประจำเดือนครั้งที่สองของเดือน จะมีอันตรายหรือเสี่ยงการท้องไหม และควรทำอย่างไร
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)