December 10, 2017 14:51
ตอบโดย
รัตน์พล อ่ำอำไพ (แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช)
สำหรับอาการหลอดเลือดสมองตีบ การทานยา aspirin คู่กับยา plavix เป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้มีหลอดเลือดในสมองมีอาการตีบเพิ่มกว่าเดิมครับ ซึ่งหากมีอาการมากขึ้นกว่าเดิม เช่นที่เคยเป็น สิ่งที่ควรทำคือการรีบพาไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจเช็คว่าเป็นมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่และมีอาการแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นหรือไม่ครับ ในกรณีที่เป็นโรคนี้การรักษาด้วยยาสำหรับที่โรงพยาบาลกรุงเทพอุดรฯ กับโรงพยาบาลศิริราชอาจไม่มีความแตกต่างกันมากครับ ยกเว้นว่าอาการที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีพิเศษหรือใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่โรงพยาบาลที่อุดรธานีไม่มี ทั้งนี้อาจลองปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ดูก่อนว่ามีความจำเป็นมากน้อยในการไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชหรือไม่ หากจำเป็นอาจต้องขอประวัติการรักษาทั้งหมดไปด้วยครับ หากมีอาการฉุกเฉินให้ไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อนครับ ส่วนหากต้องการข้อมูลสอบถามเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลศิริราช อาจโทรไปที่เบอร์ 02-414-1010 ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราชครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สามีอายุ74เป็นหลอดเลือดในสมองตีบค่ะตอนนี้รักษาประจำที่โรงพยาบาลกรุงเทพที่อุดรค่ะ ต้องคอยสังเกตุอาการแต่หละวันว่าเป็นอย่างไรบ้างทานแอสไพริน300ม.ลหลังอาหารเย็นค่ะวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีอาการพูดจาสับสนแต่บางคำพูดไม่ออกขาจะเดินไม่ออกรีบส่งโรงพยาบาลค่ะเป็นช่วงเที่ยงหลังทานเสร็จไปถึงโรงพยาบาลไม่ถึง30นาทีค่ะคุณหมอไห้ยาแอสไพรินแล้วมียาอีกตัวมาค่ะPlavixขนาด75ม.ลควบคู่กับแอสไพรินค่ะเป็นทานหลังอาหารเช้า ช่วงนี้ห่วงตลอดเลยค่ะกลัวล้มต้องคอยระวังช่วยเหลือค่ะ ช่วงที่พักโรงพยาบาลคุณหมอมีตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวการเต้นลิ้นหัวใจดีค่ะ ตรวจผลเลือดมีบอกค่าโชเดียมต่ำไห้เพิ่มเค็มนิด เป็นความดันสูงด้วยค่ะ อยากไห้สามีไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชค่ะเพราะเพื่อนแนะนำว่ามีอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญค่ะกลุ้มใจมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)