ไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายไหม สมัยเรียนต้องพรีเซ้นหน้าห้อง มือสั่น ขาสั่น ปากสั่น เวลาใครถามจี้อะไรจะไม่มั่นใจ ยิ่งต้องทำอะไรที่คนเยอะๆคนเดียวจะรู้สึกประหม่า แล้วก็ใจสั่นค่ะ เคยไปหาคุณหมอที่รพ.ครั้งนึงค่ะ คุณหมอ บอกว่าตื่นเต้นเกินไป ให้ยาลดอาการตื่นเต้นมาค่ะ แล้วไม่ได้ไปหาอีก รู้สึกดีแค่ช่วงที่ทานยาค่ะ ตอนเรียนจบมาใหม่ๆเมื่อสองปีที่แล้ว เคยไปสัมภาษณ์งานค่ะ รู้ตัวเลยว่าอาการสั่นกลับมาเป็นอีก กังวลจนเห็นได้ชัด แล้วเขาก็ไม่ติดต่อกลับมา เลยไม่กล้าไปสมัครอีก เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเก็บตัวมากขึ้นไม่ค่อยออกจากบ้าน ถ้าไม่ได้ไปกับคุณแม่ความมั่นใจจะหายไปเยอะเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีผลจากตอนเด็กๆที่คุณแม่เคยไปฝากให้คุณครูดูแลเพราะเป็นคนเขียนหนังสือและเดินช้าด้วยไหม เลยไม่ค่อยกล้าทำอะไรตอนนี้รู้สึกมีผลต่อชีวิตประจำวันมากค่ะ มีช่วงจิตตก เหม่อลอยค่ะ มันอึดอัดจนร้องไห้เลยค่ะ ควบคุมไม่ได้ ขอคำแนะนำควรทำอย่างไรดีคะ

สวัสดีครับ
การที่มีอาการตื่นเต้น สั่น ประหม่า เวลาต้องพรีเซ้นท์ตัวเองต่อหน้าคนอื่นหรือต้องทำอะไรที่ต้องถูกจับจ้องจากผู้คนอยู่บ่อยๆนั้นอาจเป็นอาการที่เข้าข่ายการเป็นโรคกลัวการเข้าสังคม หรือ social phobia ได้ครับ

หมอแนะนำว่าในเบื้องต้นนั้นควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมดูก่อนเมื่อทราบสาเหตุที่แน่แล้วก็จะให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปได้ครับ

ในกรณีที่สาเหตุเกิดจากโรคกลัวการเข้าสังคมจริงก็จะสามารถให้การรักษาได้ด้วยการใช้ยาเพื่อลดอาการตื่นเต้น วิตกกังวล ร่วมกับการทำพฤติกรรมบำบัดเพื่อฝึกการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ทำให้ตื่นเต้นครับ

ในกรณีนี้สามารถไปพบจิตแพทย์ในโรงพยาบาลที่สะดวกได้เลยครับ ซึ่งในเบื้องต้นนั้นก็อาจลองตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ตามลิงค์นี้ดูก่อนได้ครับ

https://www.honestdocs.co/list-psychiatric-hospital

สวัสดีครับ

อยากจะแนะนำอีกอย่างหนึ่งนอกจากเรื่องของการทานยานะครับว่า อีกวิธีหนึ่งในการลดอาการวิตกกังวลเหล่านี้ลงไปได้ด้วยวิธีการรับคำปรึกษาหรือการบำบัดจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ควบคู่กันไปด้วยครับ การฝึกที่จะพูดต่อหน้าคนอื่นก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ครับ ซึ่งตรงนี้อาการเหม่อลอยหรืออึดอัดที่คุณมีก็น่าจะมาจากการที่คุณผิดหวังและรู้สึกว่าอาการที่เกิดขึ้นคุณไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่หากได้รับการฝึกและทานยาไปซักระยะหนึ่งแล้ว ผมเชื่อว่าคุณจะสามารถรับมือกับอาการดังกล่าวได้อยู่ครับ

อยากให้เข้าใจว่าเป็นปกตินะครับที่คนจะมีอาการสั่นหรือตื่นกลัวเมื่อจะต้องพูดกับคนหมู่มาก หรือแม้กระทั่งการสัมภาษณ์งานก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คนรู้สึกกดดันกันมาก ซึ่งก็มีหลายคนนะครับที่มีอาการสั่นหรือไม่สามารถพูดอะไรที่ตนเองต้องการออกมาได้เพราะว่าตอนนั้นบุคคลเหล่านั้นอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ดังนั้นถึงแม้ว่าสถานที่ทำงานแห่งนี้จะไม่รับเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าที่อื่นๆจะไม่รับเราเช่นกันนะครับ อยากให้ลองเรียนรู้จากประสบการณ์และค่อยๆเตรียมความพร้อมให้กับตนเองที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้อีกครั้งครับ การเตรียมตัวที่ดีก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกันที่จะทำให้คุณผ่านพ้นการสัมภาษณ์งานหรือการพูดต่อหน้าคนอื่นๆไปได้ครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ

จากอาการที่เล่ามาอาจเป็นอาการของโรคในกลุ่มวิตกกังวลนะคะ หากไม่ได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งหนูไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง จนทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ลดโอกาสในการประสบความสำเร็จในด้านต่างๆไป ซึ่งจะส่งผลต่อความรู้สึกซึ่งอาจทำให้หนูรู้สึกด้อยคุณค่า จนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

ในกรณีของหนูแนะนำพบจิตแพทย์นะคะ ให้คุณหมอประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัด และต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษาที่ต่อเนื่อง ในการที่หนูจะตัดสินใจรับบริการที่ รพ.ไหนนั้นอยากให้คำนึงถึงเรื่องสิทธิ์การรักษาพยาบาลหลักของตนเอง คำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางเพราะคุณหมอจะต้องนัดติดตามอาการอย่างต่อเนื่องนะคะ