สวัสดีครับ หมอครับผมโดนแมวกันมาแล้ว3วันแต่ไปฉีดยาในวันที่สาม(ฉีดแล้วสองเข็มหมอนัดอีกวันศุกร์นี้)ทันไหมครับ เเละตอนนี้แมวมันเป็นแมวจรจัดและอยู่ในที่มืดกลัวเป็นโรคพิษสุนัขบ้ามาครับ แล้วแผลโดนกัดมีเลือดออกนิดตรงเท้าครับขอบคุณครับ

โดยปกติโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่มีระยะเวลาฟักตัวค่อนข้างนาน ถ้าหากเริ่มต้นฉีดวัคซีนเข็มแรกหลังโดนแมวกัดไป 3 วัน ยังถือว่าเพียงพอที่วัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ก่อนที่จะเป็นโรคครับ
ทั้งนี้ควรจะไปฉีดวัคซีนให้ครบทุกเข็มตามนัด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของวัคซีนครับ

ถ้าฉีดวัคซีนครบตามที่แพทย์นัด แม้แมวจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ก็ถือว่าปลอดภัยครับ เนื่องจากร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อพิษสุนัขบ้าได้อย่างเพียงพอ
วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงมากครับ ในคนที่ฉีดวัคซีนครบ โอกาสที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจะเหลือเพียงไม่ถึง 1%

ส่วนอาการไข้นั้นไม่น่าใช่จากโรคพิษสุนัขบ้าครับ เนื่องจากเร็วเกินไปที่จะเกิดอาการในตอนนี้

สาเหตุของไข้นั้นอาจเกิดได้จาก เป็นไข้จากวัคซีน(จะต้องเป็นไม่เกิน 48 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน) ไข้จากแผลติดเชื้อ ไข้หวัดธรรมดา ฯลฯ

ถ้ามีไข้สูงมาก ไข้สูงนานเกิน 48 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน แผลบวมแดงมีน้ำเหลือง/หนองไหลซึมก็ควรไปพบแพทย์ครับ

ขออนุญาตช่วยตอบคำถามนะครับ
หากมีไข้ต่ำๆ สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ได้ครับ แต่ถ้ามีไข้สูงหรือไข้ติดต่อกันหลายวัน ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของไข้เพิ่มเติมครับ ส่วนแมวอยู่ในที่มืดอย่างเดียว ยังไม่เจาะจงเท่าไหร่ที่จะบอกว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าครับ ยิ่งเป็นแมวจรจัดด้วย อาจจะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาจจะกลัวคนเลยชอบไปอยู่ในที่มืดๆครับ เบื้องต้นยังไม่ต้องวิตกกังวลไปครับ แนะนำให้ไปฉีดวัควีนตามกำหนดเดิมครับ

ขอเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับ วิธีการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในแมวที่ง่ายที่สุด คือ สังเกตว่าแมวตายภายใน 10 วันหรือไม่ครับ ถ้าแมวไม่ตายภายใน 10 วันก็จะถือว่าปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า
แต่ในกรณีที่แมวหายไป หรือเป็นพิษสุนัขบ้าจริงก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะถ้าหากไปฉีดวัคซีนตามนัดครบทุกครั้ง ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อพิษสุนัขบ้าได้อย่างเพียงพออยู่แล้ว โอกาสที่จะติดเชื้อมีน้อยมากๆ

เรื่องไข้แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอลไปก่อนได้ร่วมกับเฝ้าระวังสังเกตดูว่าแผลมีการบวมแดงมากขึ้น มีน้ำเหลือง/หนองไหลซึมหรือไม่ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงแผลติดเชื้อ ถ้ามีไข้สูง 2-3 วันหรือสงสัยว่าแผลติดเชื้อก็แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ

ถ้าแผลไม่มีหนองตกสเก็ตแล้วก็ไม่ถือว่าติดเชื้อใช่ไหมครับ >>> ใช่ครับ แต่การติดเชื้อตรงนี้จะหมายถึงไม่ได้ติดเชื้อจากแบคทีเรียในช่องปากสุนัขหรือแบคทีเรียตามผิวหนังนะครับ ไม่เกี่ยวกันกับเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า ส่วนยาที่ฉีด 2 ข้างถูกต้องแล้วครับ

โรควุ้นในตาเสื่อมนั้นเกิดจากความเสื่อมของวุ้นในลูกตาซึ่งมักจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น หรือในบางคนอาจเกิดจากการมีอุบัติเหตุกระทบกระแทกที่ดวงตาได้ เมื่อวุ้นในตาเสื่อมจะมีการตกเป็นตะกอนลอยไปลอยมาอยู่ในลูกตา บดบังทางเดินแสง ทำให้เห็นภาพเป็นลักษณะคล้ายก้อนเมฆหรือหยากไย่สีดำๆลอยไปลอยมาอยู่ได้
ภาวะวุ้นในตาเสื่อมนี้เป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายและไม่จำเป็นต้องรักษาครับ จึงอาจหาเวลาว่างไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันเมื่อใดก็ได้ที่สะดวก ยกเว้นแต่ว่าก่อนหน้านี้ได้ประสบอุบัติเหตุที่ดวงตามาก่อนเงาเมฆที่ลอยไปลอยมานี้ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้จึงควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดครับ

แต่ถ้าเงาที่มองเห็นนั้นเป็นเหมือนแสงสว่างวาบๆ คล้ายฟ้าแลบ ก็อาจเกิดจากจอประสาทตาลอก(Retinal detachment)ได้ครับ ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉิน ควรไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาในทันที ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ตาบอดได้ครับ

ถ้าเป็นอาการของจอประสาทตาลอกนั้นจะทำให้มีอาการมองเห็นเป็นลักษณะแสงขาวๆวาบๆขึ้นมาเป็นพักๆ ซึ่งอาจจะขาวทั้งตาเลยหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงครับ

และในกรณีที่มีอาการในลักษณะนี้ต้องไปพบแพทย์ “ในทันที” ครับ ไม่เช่นนั้นอาจให้การรักษาได้ไม่ทันและตาบอดได้

ถ้าหากมีอาการเห็นแสงวาบเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วหายไป โอกาสที่จะเป็นจอประสาทตาลอกก็มีน้อยลงเนื่องจากถ้าเป็นอาการของจอประสาทตาลอกแสงวาบที่เกิดขึ้นมักเป็นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ในทันที และสามารถไปตรวจพรุ่งนี้เช้าได้ครับ

อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่แน่ใจอาการหรือมีอาการแสงวาบเกิดขึ้นซ้ำอีกก็สามารถไปพบแพทย์ได้ทันทีครับ

ในกรณีที่ในโรงพยาบาลที่ไปตรวจไม่มีจักษุแพทย์อยู่ในขณะนี้ ก็จะมีแพทย์เวรที่คอยตรวจอาการในเบื้องต้นแทนให้ครับ ซึ่งถ้าแพทย์เวรตรวจประเมินแล้วว่าอาการดังกล่าวเข้าได้กับภาวะจอประสาทตาลอกจริง ก็จะมีการติดต่อประสานส่งตัวไปรักษาต่อในโรงพยาบาลที่มีจักษุแพทย์ต่อไปครับ

ใช่ครับ ถ้าเห็นแสงเข้ามาแค่แว่บเดียวแล้วหายไป โอกาสที่จะเป็นจอประสาทตาลอกมีน้อยครับ

ทั้งนี้ต้องคอยสังเกตอาการตัวเองในระหว่างนี้ด้วยครับว่าถ้าหากมีอาการเห็นแสงวาบขึ้นมาอีกหรือมีการมองเห็นที่ผิดปกติไปก็ต้องไปโรงพยาบาลทันทีครับ

หมายถึงการมองเห็นที่ไม่เหมือนเดิมในทุกรูปแบบครับ เช่น มองเห็นแสงวาบๆ ตาเบลอเห็นภาพไม่ชัด ลานสายตามืดไปข้างหนึ่ง รู้สึกเหมือนมีม่านเลื่อนลงมาบังลานสายตา เห็นสายรุ้งรอบดวงไฟ เป็นต้น

สรุปอย่างง่ายๆ คือ หากมีอาการผิดปกติอะไรที่ไม่มั่นใจว่าจะเกิดอันตรายได้หรือไม่ก็ให้ไปพบแพทย์ได้ทันทีครับ

อาการดังกล่าวเป็นหนึ่งในอาการของโรควุ้นในตาเสื่อมได้ครับ

อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยที่แน่ชัดนั้นต้องมีการตรวจตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์อีกครั้งหนึ่งครับ

ถ้าเป็นเพียงแค่อาการของวุ้นในตาเสื่อมก็สามารถดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ได้ตามปกติครับ

ถ้ามีอาการในลักษณะที่คล้ายไฟตกก็มีโอกาสที่จะไม่ใช่อาการของวุ้นในตาเสื่อมครับ และถ้า ณ ตอนนี้ยังมีอาการในลักษณะนี้อยู่ก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูให้ชัดเจนเลยดีกว่าครับ

การที่จะบอกถึงสาเหตุที่แน่ชัดได้ต้องอาศัยการตรวจดูการมองเห็นและตรวจตาร่วมด้วยครับ การอาศัยอาการเพียงอย่างเดียวไม่สามารถบอกถึงสาเหตุที่แน่นอนได้ครับ