หมอครับ ผมเคยเป็นคนร่าเริงเฮฮาเพื่อนฝูงเยอะเพื่อนรักคนรู้จักมากมาย บันเทิงกันตลอด ตั้งแต่ตอนเรียนมอปลายถึงปวส2 จบมาผมทำงานที่นึง ผมทำงานทุกอย่างตามนายสั่งเลยครับ ทำตามที่บอกทำผลงานทำดี แต่ยังโดนบ่นและด่าทุกวัน เน้นเลยครับทุกวัน แต่ผมก็ทนทำมาได้1ปีกว่าๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเครียด เสียสุขภาพจิตเพราะโดนด่าทุกวัน ผมเก็บคำพูดเขามาคิดทุกคำพูด เขาบ่นทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว กลับบ้านมาผมร้องไห้คนเดียวทุกวัน ผมอึดอัด อยากออกแต่ก็มีภาระ มาวันนึงผมรู้สึกไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ไม่ไหว ผมเหนื่อย ผมท้อ หมดกำลังใจ ร้องไห้ทุกวัน ผมเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยครับ บวกกับแฟนบอกเลิกอีก สุดท้ายลาออก ตอนนี้กล้ายเป็นคนที่ไม่กล้าทำอะไร กลัวไปหมด ออกมาอยู่บ้านได้สามสี่เดือน ไม่ทำอะไรปล่อยผ่านไปวันๆ ไม่รู้จะทำอะไรไปเพื่ออะไร เพื่อใคร หมดหวัง ผมสะอื้นเหมือนจะร้องไห้ตลอด ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีอนาคต อยากอยู่คนเดียว ไม่ออกไปไหน ผมอยากนอนแล้วไม่อยากตื่นขึ้นมา ผมเคยเป็นเก่งขยันอดทน ตอนนี้มันหายไปหมดเลย ใจมันไม่สู้เลยครับ ใจมันหดหู่ ไม่เอาอะไรแล้ว ทำยังไงก็ไม่ดีขึ้น พยายามหาตัวเองตลอดว่าทำอะไรแล้วเรารู้สึกดี แต่มันไม่มีเลย ผมจมมาก ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ครับ ผมไม่โอเค เคยปรึกษาคนอื่นเขาบอกผมจะเป็นซึมเศร้า ผมไม่อยากเป็นครับ แต่อาการแบบนี้มันเป็นไม่หายเลยครับ ผมทำยังไงดีครับ

สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้าติดต่อกันเป็นเวลานาน รู้สึกหดหู้ จมอยู่กับตัวเอง ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากทำอะไร มีปัญหาด้านการนอน จนมีความคิดเกี่ยวกับการไม่อยากมีชีวิตอยู่เกิดขึ้นนั้นเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและจะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ในกรณีที่สาเหตุเกิดจากโรคซึมเศร้าจริง การได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อปรับอารมณ์หรืออาจใช้การทำจิตบำบัดร่วมด้วยก็จะช่วยให้อารมณ์ที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้ครับ

สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้าติดต่อกันเป็นเวลานาน รู้สึกหดหู้ จมอยู่กับตัวเอง ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากทำอะไร มีปัญหาด้านการนอน จนมีความคิดเกี่ยวกับการไม่อยากมีชีวิตอยู่เกิดขึ้นนั้นเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและจะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ในกรณีที่สาเหตุเกิดจากโรคซึมเศร้าจริง การได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อปรับอารมณ์หรืออาจใช้การทำจิตบำบัดร่วมด้วยก็จะช่วยให้อารมณ์ที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้ครับ

ในปัจจุบันยังไม่มีจิตแพทย์อยู่ในทุกโรงพยาบาลครับ ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้ลองดูรายชื่อโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ตามลิงค์นี้ก่อน

https://www.honestdocs.co/list-psychiatric-hospital

ถ้าหากสะดวกที่ใดก็ไปตรวจที่นั่นได้ครับ

ลองทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน

ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้าได้ค่ะ

ในกรณีนี้แนะนำพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้น คุณสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตได้ตามปกตินะคะ โรงพยาบาลประจำจังหวัด โดยมากจะมีจิตแพทย์ออกตรวจนะคะ

สวัสดีครับ

จากเรื่องที่เล่ามาจะเห็นได้นะครับคุณเองก็ผ่านอะไนมาและมีความอดทนที่จะอยู่ในหน้าที่การงานที่ถูกหัวหน้ากดดัน และปฏิบัติกับคุณแบบไม่ถูกต้องและเป็นต้นเหตุให้คุณรู้สึกเครียด และคุณได้แบกรับความเครียดเหล่านั้นเอาไว้จนในที่สุดก็ทำให้คุณอาจจะมีภาวะซึมเศร้าเหล่านี้เกิดขึ้นมา ตรงนี้สิ่งแรกที่อยากให้ทำเลยก็คือการลุกขึ้นไปพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับความช่วยเหลือนะครับ คุณอาจจะลองชักชวนคนที่ไว้ใจหรือบุคคลในครอบครัวให้ลองพาคุณเข้าไปก็ได้นะครับ นอกจากนั้นแล้ว การเริ่มทำอะไรที่ active ก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคุณได้ครับ การทำงานที่ผ่านมาอยากให้มองว่าเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมและตัวหัวหน้าของคุณด้วยที่ทำให้คุณมีลักษณะแบบนี้

ดังนั้นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการพยายามให้ตนเองลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างหนึ่งถึงแม้ว่าสิ่งที่ทำนั้นอาจจะเล็กน้อย แต่ก็เป็นการช่วยให้มีการปรับเปลี่ยนอารมณ์จากการทำพฤติกรรมต่างๆได้ครับ ซึ่งนอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การบริหารจัดการกับความเครียดหรือการดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ของตัวคุณได้ หรืออาจจะช่วยให้อารมณ์เศร้าเหล่านี้บรรเทาลงไปได้

สุดท้ายนี้ลองไปที่โรงพยาบาลเพื่อพูดคุยกับจิตแพทยหรือนักจิตวิทยาดูนะครับ ไล่ดูตามลิสที่คุณหมอได้ให้ไว้ด้านบน ผมคิดว่าน่าจะมีจิตแพทย์ที่คุณจะสามารถทำงานด้วยได้อยู่ครับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปให้ได้นะครับ หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถโทรติดต่อเข้ามาได้ครับ

มันยังมีความเศร้าเข้ามาอยู่ในตลอดเวลาใช่ไหมครับ อยากให้ลองรวบรวมพลังในตนเอง และเข้าหากับผู้เชี่ยวชาญ ไมว่าจะเป็นจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือแม้กระทั่งลองโทรไปพูดคุยกับสายด่วนสุขภาพจิตดูได้นะครับ ให้เวลากับตนเอง ลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เพื่อเบี่ยงเบนความเศร้าตรงนี้ไปได้นะครับ