อยากทราบว่าเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมีได้มีอะรัยกับแฟนแล้วแฟนหลั่งในทุกรอบประมาน5ครั้งแล้วมากินยาคุมฉุกเฉินของอีกวันช่วงประมานบ่าย2ได้แต่กินที่เดี่ยว2เม็ดละหลังจากกินแล้วประมานวันที่6เหมือนมีตกขาวเป็นสีน้ำตาลละสีเลือดออกชมพูๆแต่ไม่ได้มาเยอะเหมือนตอนเป็นประจำเดือนค่ะมาแค่2วันละหายไปนี้ก็ผ่านมา10กว่าวันแล้วคืมีอาการพะอืดพะอมเวียนหัวปวดหัวหายใจเร็วกว่าปกติเหนื่อยง่ายบางทีหายใจเร็วจนเวียนหัวอยากทราบว่ามีโอกาศจะตั้งครรภ์ไหมค่ะเพราะเคยมีลูกแล้วอะค่ะ ปล.พอดีห่างจากกันมีอะรัยกันประมานเกือบ2ปีละค่ะช่วงก่อนจะมีอะรัยกันก่อนหน้านี้ประจำเดือนกระโดดข้ามเดือนมาค่ะปกติจะมาประมานก่อนสิ้นเดือนละกระโดดข้ามมาวันที่6ละก็มามีอะรัยกันช่วงปีใหม่พอดีหลังจากที่กินยาคุมฉุกเฉินไปละวันที่6ก็ตกขาวออกมาเป็นสีน้ำตาลค่ะเลือดออกชมพูๆแดงไม่มากเป็นแค่2วันละหายเลยค่ะปกติประจำเดือนจะมา3วันค่ะละมามากค่ะ

ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพไม่สูงมากเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ ดังนั้น แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%

จึงไม่ควรนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ แต่ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ฉุกเฉินจริง ๆ เช่น ถุงยางฉีกขาด

อย่างไรก็ตาม เมื่อรับประทานไปแล้ว อาจพบเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาภายใน 7 วันหลังรับประทานค่ะ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ผลข้างเคียงนี้ไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์

จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ซึ่งในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงเวลา หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ

แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ส่วนอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้น หากมีอาการรุนแรง หรือเป็นอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ใช้ปัสสาวะแรกของวัน) และตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

หรือไปตรวจทางเลือดที่โรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีบริการ ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 9 วันได้ค่ะ

ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย มักพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน โดยมีอาการไม่รุนแรงและหายเองได้ในไม่กี่วัน

เมื่อผู้ถามรับประทานยาคุมฉุกเฉินมามากกว่า 10 วันแล้ว อาการผิดปกติที่พบในช่วงนี้จึงไม่น่าจะเป็นผลจากยาค่ะ ดังนั้น หากอาการรุนแรงหรือเป็นอยู่เรื่อย ๆ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงนะคะ

มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ตามประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินค่ะ

รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ก็ได้ หรือจะตรวจการตั้งครรภ์ตามเวลาที่แนะนำไปแล้วก็ได้เช่นกันค่ะ

หากใช้ภายในเวลาที่แนะนำ คือ ไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% ตามประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งไม่สูงมากเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ (เช่น ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% เท่านั้น)

แต่ถ้าใช้ไม่ทันเวลาดังกล่าว ก็ไม่มีประโยชน์นะคะ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงตามปกติเช่นเดียวกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาคุมฉุกเฉินค่ะ

หมายถึง 31 ธันวาคมใช่มั้ยคะ?

ประจำเดือนปกติจะมีปริมาณเลือดมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ หรือต่อให้มาน้อยอย่างไร ก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุุ่มผ้าอนามัยอย่างน้อย 1 แผ่น/วัน และมาติดต่อกันอย่างน้อย 2 วันนะคะ

ดังนั้น หากเลือดที่ออกมาเป็นเพียงหยดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอยที่พบภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ ซึ่งจะยังบอกไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือเปล่านะคะ
..
..
หากไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือผู้ถามไม่มั่นใจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ

นั่นคือ ถ้านับจาก 31 ธันวาคม มาจนถึงปัจจุบัน ผู้ถามไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย และไม่มั่นใจว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ ก็ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันพรุ่งนี้ได้นะคะ

ในกรณีที่ไม่มั่นใจ ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความชัดเจนนะคะ

และถ้าตรวจด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะอย่างถูกวิธี ตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสม คือในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน ผลที่ออกมา 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% (หรือตามที่ชุดทดสอบยี่ห้อนั้น ๆ ให้การรับรอง) ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ

แต่ถ้าผู้ถามตรวจไม่ถูกวิธี หรือเวลาที่ตรวจไม่เหมาะสม ผลตรวจนั้นจะเชื่อะถือไม่ได้ จึงจำเป็นจะต้องตรวจใหม่นะคะ โดยจะซื้อชุดทดสอบชิ้นใหม่มาตรวจ หรือจะไปตรวจที่โรงพยาบาล/คลินิกสูตินรีเวชที่มีบริการนี้ก็ได้ค่ะ