สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูกินยาคุมรานเดือนของพรีม แต่ว่าไม่ตรงเวลาเดิมทุกครั้ง ไม่ลืมกินยา กินมาแล้ว14 วัน มีเพศสัมพันธ์วันที่ 6 เมษา แต่ไม่แน่ใจว่าหลั่งในไหม เลยกินยาคุมฉุกเฉินไปด้วย แล้วมามีเพศสัมพันธ์อีกครั้งวันที่ 8 เมษา แบบนี้มีโอกาสท้องไหมคะ ปล.ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย

สวัสดีครับ
หมอขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อให้สามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องนะครับ
- เริ่มรับประทานยาคุมมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่
- วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายคือวันที่เท่าไหร่
- ก่อน 6 เมษายนได้มีเพศสัมพันธ์อีกหรือไม่ เมื่อไหร่บ้าง

เนื่องจากในกรณีนี้คุณได้รับประทานยาคุมเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมจึงสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีหลังรับประทานยาเม็ดแรกครับ ถึงแม้อาจมีการรับประทานยาคุมคลาดเคลื่อนจากเวลาปกติบ้างเล็กน้อยแต่ถ้ายังรับประทานยาติดต่อกันอยู่ทุกวันก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ

ในกรณีนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มครับ แต่ถ้าหากรับประทานไปแล้วก็ไม่ได้ส่งผลต่อการคุมกำเนิดมาก หลังจากนี้หมอก็แนะนำให้รับประทานยาคุมพรีมต่อเนื่องไปตามปกติได้ครับ

ถ้าหากยังรับประทานยาคุมพรีมต่อเนื่องกันทุกวันอยู่ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยและยาคุมฉุกเฉินครับ แต่ถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ไม่มีปัญหา สามารถรับประทานยาคุมพรีมต่อไปตามปกติได้ตามที่หมออธิบายไปครับ

ไม่ทราบว่าเริ่มรับประทานยาคุมมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่และวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายคือวันที่เท่าไหร่ครับ

คุณเริ่มรับประทานยาคุมในช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือนถือว่าเริ่มกินได้ถูกค่ะ วันทีื 3 เมษายนก็จะมีประสิทธิ์ภายในการคุมกำเนิดแล้วค่ะ ไม่จะเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินช่วยค่ะ แต่ถ้าทานไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะให้ทานยาคุมต่อจนหมดแผงนะค่ะ หลังทานยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนมาไวกว่าปกติค่ะ อาจทำให้มีอาการปวดท้องร่วมด้วยได้ค่ะ

การเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนจะทำให้ยาคุมสามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยา และจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยโดยมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ และก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินหลังจากนั้น แต่ถ้ารับประทานไปแล้วก็ไม่มีปัญหาครับ

หลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินและการรับประทานยาคุม 1-3 แผงแรกอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ โดยเฉพาะถ้ารับประทานยาทั้ง 2 ชนิดร่วมกันโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงนี้ก็จะมีมากขึ้น

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รับประทานยาคุมต่อเนื่องไปตามปกติก่อน แล้วประจำเดือนก็จะมาในช่วงเวลาดังนี้ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก่อนเริ่มยาแผงใหม่
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผงขึ้นอยู่กับยี่ห้อยาคุมที่ใช้ครับ

ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ในช่วงที่งดการรับประทานยาคุม 7 วันจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยอยู่ครับ โดยมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ

ถึงแม้จะเพิ่งรับประทานยาคุมเพียง 1 แผง แต่ถ้าที่ผ่านมารับประทานยาคุมอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด ในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก็ยังถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมากอยู่ครับ

ถ้าหากรับประทานยาคุมสม่ำเสมอมาโดยตลอด โอกาสที่ประจำเดือนจะขาดหายไปก็มีไม่มากครับ โดยประจำเดือนที่ปกติก็ควรมาในวันใดวันหนึ่งที่เว้นการรับประทานยา 7 วันนี้ครับ

ถ้าหากประจำเดือนไม่มาในช่วงที่เว้นการรับประทานยาคุม 7 วันก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูในตอนเช้าของวันที่จะต้องเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถรับประทานยาแผงใหม่ต่อไปได้ครับ

อาการปวดท้องน้อยนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น เป็นอาการนำก่อนที่ประจำเดือนจะมา อุ้งเชิงกรานอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ

ถ้าหากอาการปวดท้องเป็นรุนแรงมากหรือเป็นติดต่อกันหลายวันหมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนครับ

ไม่ทราบว่าตอนนี้รับประทานยาคุมถึงเม็ดที่เท่าไหร่แล้วนะครับ

ถ้าเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นประจำเดือนครับ แต่อาจจะต้องรอสังเกตลักษณะเลือดต่อไปอีก 1-2 วันก่อน ถ้าเลือดเริ่มออกมาในปริมาณมากเหมือนประจำเดือนตามปกติก็น่าจะเป็นประจำเดือนจริงครับ