ประจำเดือนครั้งสุดท้าย 6-9/6/62 มี พสพไม่ได้ป้องกันครั้งล่าสุด 24 /6/62 ตรวจการตั้งครรภ์เมื่อเช้า(11/7/62)ครั้งล่าสุด แล้วเป็นลบ มีโอกาสท้องมั๊ย ประจำเดือนขาดมา5วันแล้วตอนนี้แจกยังไม่มา รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอปกติจะคลาดเคลื่อน 2-3วัน มีตกขาว2วันก่อนเป็นแป้งติดกกน. มีเจ็บเต้านม รู้สึกอยากเรอตลอดเวลา

สวัสดีครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม หรือ การหลั่งนอก ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ

****(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)****
แนะให้ใช้ปัสสาวะแรกของวัน
หากประจำเดือนยังไม่มาในอีกสองสัปดาห์ อาจตรวจการตั้งครรภ์ซ้ำได้ครับ

ส่วนการมีอาการคัดตึงเต้านม เรอบ่อย ยังไม่เป้นอาการจำเพาะของการตั้งครรภิครับ

-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ

ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ

สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่าการตรวจการตั้งครรภ์ที่ได้ตรวจไปนั้นได้ตรวจโดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าหรือไม่ครับ ถ้าหากได้ตรวจโดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าแล้วผลตรวจที่ได้ก็จะมีความน่าเชื่อถือถึงประมาณ 99% แล้วครับ แต่ถ้าหากยังไม่ได้ใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจหมอก็แนะนำให้ตรวจใหม่อีกครั้งครับ

ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วไม่พลการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ถ้าเช่นนั้นผลตรวจดังกล่าวก็เชื่อถือได้ 99% แล้วครับ ในกรณีนี้ประจำเดือนจึงมีแนวโน้มที่จะขาดหายไปจากสาเหตุอื่นๆมากกว่า ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้ใจเย็นๆและรอสังเกตดูประจำเดือนตามที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ

ที่ต้องการตรวจการตกไข่เพราะต้องการปล่อยมีบุตรหรือเปล่าครับ

ถ้าเช่นนั้นหมอไม่แน่ใจว่าต้องการตรวจการตกไข่ด้วยวัตถุประสงค์ใดครับ

โดยปกติแล้วการตรวจการตกไข่จะแนะนำให้ทำในคนที่มีปัญหามีบุตรยากและต้องการปล่อยมีบุตรเท่านั้น ในกรณีอื่นๆการตรวจการตกไข่จะไม่ได้มีประโยชน์มากนักครับ

แนะนำตรวจซ้ำอีก 1-2 สัปดาห์ครับ

สรุปคือหมายถึงการตรวจการตั้งครรภ์ ไม่ใช่ตรวจการตกไข่ใช่ไหมครับ?

ในกรณีที่ต้องการตรวจการตั้งครรภ์ซ้ำเนื่องจากกังวลว่าผลตรวจการตั้งครรภ์ครั้งที่ผ่านมาจะไม่ถูกต้อง หมอก็แนะนำให้ตรวจซ้ำห่างจากการตรวจครั้งแรกประมาณ 1 สัปดาห์ครับ ถ้าหากตรวจแล้วผลตรวจออกมาตรงกันผลตรวจก็ไม่น่าผิดพลาดแล้วครับ