December 20, 2018 12:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในกรณีที่รับประทานยาต้านไวรัส HIV ในรูปแบบ PrEP หรือแบบป้องกันล่วงหน้าก่อนสัมผัสโรคอยู่แล้ว และรับประทานติดต่อกันมานานเกิน 7 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปรับยา PEP ซึ่งเป็นสูตรป้องกันหลังสัมผัสโรคมารับประทานต่อครับ เนื่องจากได้รับการป้องกันจากยาสูตร PrEP อยู่แล้ว
และหลังจากที่ได้รับความเสี่ยงมาก็จะต้องรับประทานยา PrEP ต่อไปอีกอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังรับความเสี่ยงจึงจะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในวันที่เสี่ยงได้ครับ
อย่างไรก็ตามยาต้านไวรัสนั้นไม่สามารถใช้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม หูดหงอนไก่ ไวรัสตับอักเสบบี ได้ครับ ดังนั้นถ้าได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยก็ยังต้องเฝ้าระวังอาการของโรคเหล่านี้ รวมถึงควรไปพบตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเหล่านี้ด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยาPEP ผมมีอะไรกับคู่นอนที่ไม่ทราบผลเลือด ตอนแรกใช้ถุงยาง แต่พอเสร็จ เพิ่งมาทราบว่าเขาแอบถอดถุงยางออก ผมเป็นฝ่ายรับ จึงอยากทราบว่าผมควรไปรับยา pep ไหมครับ แต่ปกติผมทาน ยา prep ทุกวันอยู่แล้ว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)