November 12, 2019 10:34
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
หากมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสอดใส่โดย ในช่วงนั้นไม่มีประจำเดือน และไม่ได้คุมกำเนิดมากก่อน ควรทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
เเม้การสอดใส่โดยไม่ได้หลั่ง อาจมีโอกาสท้องจากการที่อสุจิปนกับน้ำหล่อลื่นได้เเต่กรณีคนไข้โอกาสท้องนั้นน้อยมากๆครับ
ถ้าชัวร์ว่าเป็นประจำเดือน ช่วงที่มีประจำเดือนนั้น ไม่มีข่ตกครับ ดังนั้นโอกาสท้องต่ำมากๆครับ อาจไม่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินก็ได้ครับ เเต่ถ้าไม่ชัวร์ เช่น ประจำเดือนมาไม่ตรงบ่อยๆ กะรอบประจำเดือนยาก หรือกังวลมากก็เเนะนำปรึกษาเภสัชกรเรื่องยาคุมฉุกเฉินครับ
ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เเล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน7วันจนถึงหลัง7วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องเเทบไม่มีครับ
เรียกว่าระยะปลอดภัย
เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้กะช่วงเวลาตกไข่ยาก หรือประจำเดือนมาสม่ำเสมอเเต่มีเพศสัมพันธ์ช่วง14วันนับจากวันเเรกที่ประจำเดือนรอบนั้นมา จะเป็นช่วงไข่ตก โอกาสท้องมากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ประจำเดือนควรจะมาตามรอบปกติเดิม มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน โดยเฉพาะในช่วงวันแรก ๆ ที่เป็น รวมถึง ควรจะมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ หากเลือดที่ออกมาตรงตามลักษณะที่กล่าวไปนี้ ก็น่าจะเป็นประจำเดือนจริง ๆ ที่มาตามรอบ ไม่ใช่เลือดที่ออกผิดปกติจากสาเหตุอื่น ๆ
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 2 ของการมีประจำเดือน ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ไม่สูงนักค่ะ โดยการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 5 - 24% แต่ในกรณีนี้ความเสี่ยงน่าจะค่อนไปทางต่ำ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรอง (แต่ถ้ากังวลใจมาก ก็สามารถรับประทานได้ค่ะ)
อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน จะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานได้ง่าย จึงควรงดมีเพศสัมพันธ์และรอให้ประจำเดือนหายดีก่อนนะคะ
..
..
..
แต่ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอย และไม่ได้มาตามรอบปกติเดิม เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่ประจำเดือน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ แม้จะไม่มีการหลั่งในช่องคลอดก็ตาม จึงควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ไม่ให้เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลงค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ควรกินยาคุมฉุกเฉินไมครับ เเล้วผลของยาคุมฉุกเฉินละครับ เเล้วที่เลือดออกกะปริมกะปรอย นี่คือหลังสอดใส่ไปตามที่ถามไปใช่ไมครับ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ควรกินยาคุมฉุกเฉินไหมครับ
ต้องพิจารณาว่าเลือดที่ออกมานี้เป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือไม่ค่ะ โดยพิจารณาว่า "มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน + มาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน + มาตรงตามรอบปกติเดิมที่คาดไว้" หรือเปล่านะคะ
ถ้าใช่... ก็ถือว่ามีความเสี่ยงไม่สูงนักที่จะตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 2 ของการมีประจำเดือนตามที่กล่าวมาค่ะ เพราะนอกจากไม่ใกล้เคียงช่วงที่น่าจะมีไข่ตกแล้ว อสุจิที่อาจปนออกมากับน้ำหล่อลื่นและเข้าไปในช่องคลอดในระหว่างที่สอดใส่ ก็น่าจะถูกเลือดประจำเดือนชะล้างออกมาด้วยนั่นเอง
แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนจริง ๆ เช่น มาไม่ตรงรอบปกติเดิม และมีเพียงเลือดกะปริบกะปรอย ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะมีไข่ตกในช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ได้ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ตามวิธีหลั่งนอก ซึ่งหากต้องการลดความเสี่ยงนี้ให้น้อยลง ก็ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
..
..
2. ผลของยาคุมฉุกเฉินล่ะครับ
ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, เจ็บคัดตึงเต้านม, ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจเกิดขึ้นภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ค่ะ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์
ซึ่งในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ดังนั้น เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินครบขนาดแล้วก็ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือเปล่านะคะ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็ให้ตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
..
..
..
3. แล้วที่เลือดออกกะปริบกะปรอย นี่คือหลังสอดใส่ไปตามที่ถามไปใช่ไหมครับ
ประจำเดือนปกติควรจะมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ โดยมักจะมาปริมาณมากในวันแรก ๆ และค่อย ๆ ลดลงจนหายไปในภายหลัง
และเนื่องจากผู้ถามให้ข้อมูลว่ามีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 2 ของการมีประจำเดือน หากเลือดนั้นเป็นประจำเดือนจริง ๆ ก็เป็นไปได้ว่าเลือดกะปริบกะปรอยที่พบก็คือประจำเดือนในวันท้าย ๆ ก่อนที่หายไปนั่นเองนะคะ
แต่ถ้าแฟนของผู้ถามมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มีเพศสัมพันธ์กับเเฟนไม่ใส่ถุงยางอนามัยเเต่มีการสอดใส่เเค่1ครั้งคือเอาเข้าเเล้วก็ออกเลยมีนํ้าใสๆที่ออกมาจากอวัยวะเเต่ไม่ใช้อสุจิ ซึ่งไม่ถึงจุดสุดยอดเพราะเอาเข้าเเค่ครั้งเดียว เเฟนเป็นประจำเดือนวันที่2 ด้วยครับ ควรกินยาคุมฉุกเฉินไมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)