คือผมเคยเป็นหูดหงอนไก่มาก่อน แต่ตอนนี้ตรงที่เคยเป็นหายมาหลายเดือนแล้ว แฟนผมก็เป็นคับ แต่พาไปหาหมอแล้ว ตอนนี้ผมมีอาการคันที่ท่อปัสสาวะ เวลาปัสสาวะมีอาการคันที่ปลายท่อปัสวะ ที่ท่อปัสวะเหมือนมีตุ่มนู่นขึ้นมามีสีแดงและคัน เป็นมาเกือบสักอาทิตย์แล้วคับ วันนี้มีอาการคันน้อยลง แต่ในท่อปัสวะมีตุ่มและแดงกว่าเดิม ผมอยากรู้ว่าใช่หูดในท่อปัสสวะไหมคับ หรือเป็นแค่ท่อปัสวะอักเสบคับ หรือเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น มีรูปด้วยคับ

จากลักษณะแล้วหมอว่าเหมือนมีแผลที่อวัยวะเพศ ในผู้ป่วยที่มีแผลบริเวณอวัยวะเพศนั้นส่วนมากเป็นแผลที่เกิดจากการติดเชื้อ เริมบริเวณอวัยวะเพศ (Herpes simplex virus; HSV) มากที่สุด รองลงมาเป็นแผลริมแข็ง (syphilis) และแผลริมอ่อน (chancroid) ตามลำดับ แต่จากตัวแผลที่ดูเหมือนแผลริมอ่อนมากที่สุดค่ะ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ ชนิด facultative anaerobe

ระยะฟักตัวประมาณ 4-7 วัน อาการจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่เป็นแผล โดยแผลจะเริ่มด้วยตุ่มขนาดเล็กแล้วตามมาด้วยตุ่มหยอง ใน 1-2 วัน หลังจากนั้นจะแตกออกเป็นแผลขอบไม่เรียบ ก้นแผลลึกเซาะออกทางด้านข้าง มีอาการปวด ก้นแผลสกปรก นอกจากนั้นยังพบต่อมน้ำเหลิองบริเวณขาหนีบโต (bubo) ซึ่งภายในมีหนอง
ลักษณะของแผลริมอ่อนจะมีขอบเขตไม่เรียบ ก้นแผลค่อนข้างลึกเซาะออกทางด้านข้างและสกปรก ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บบริเวณแผลมาก นอกจากนั้นมักพบว่ามีต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตมากขึ้น และเป็นหนอง (bubo) ร่วมด้วย (พบได้ร้อยละ 30-50)
สำหรับการวินิจฉัยของแผลริมอ่อน คือการพบเชื้อ โดยการเพาะเชื้อบนอาหารเพาะเชื้อชนิดพิเศษ ซึ่งไม่แพร่หลาย หรือในปัจจุบันก็มีวิธีการทำโดย PCR แต่ก็ยังไม่แพร่หลายเช่นกัน ส่วนการย้อมเชื้อพบได้ไม่สูง ดังนั้นองค์การโรคติดต่อของสหรัฐฯจึงแนะนำว่าการที่จะวินิจฉัยแผลริมอ่อนได้ ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
1)ผู้ป่วยมีแผลบริเวณอวัยวะเพศที่มีอาการเจ็บอย่างน้อย 1 แผล
2)ลักษณะของแผลเข้าได้กับแผลริมอ่อน ร่วมกับพบว่ามีต่อมน้ำเหลืองขาหนีบโต ซึ่งพบได้บ่อย
3)ผู้ป่วยไม่มีการติดเชื้อซิฟิลิส(แผลริมแข็ง) จากการตรวจหนองที่ได้จากก้นแผล หรือจากการตรวจ เลือดสำหรับซิฟิลิส อย่างน้อย 7 วัน
4)หลังมีอาการผู้ป่วยไม่มีการติดเชื้อเริม (HSV) จากการตรวจจากหนองจากก้นแผล

โดยแผลริมอ่อนเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ร่องรอยของแผลอาจยังคงมีอยู่ให้เห็นได้ทั้งๆที่กำจัดเชื้อไปได้หมดแล้วก็ตาม โดยการรับประทานยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่งค่ะ
Recommended regimens

•Azithromycin 1 g orally in a single dose หรือCeftriaxone 250 mg IM in a single dose หรือCiprofloxacin 500 mg orally twice a day for 3 days
หรือErythromycin base 500 mg orally three times a day for 7 days
และควรได้รับการติดตามการรักษาใน 3-7 วันหลังการรักษา หากตอบสนองต่อการรักษา รอยโรคจะเริ่มดีขึ้นภายใน 3-7 วันหลังการรักษา โดยประมาณ2สัปดาห์แผลจะดีขึ้นค่ะ

มีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตด้วยมีโอกาสเป็นแผลริมอ่อนสูงมากเลยค่ะ แต่หมอแนะนำว่าควรไปตรวจรักษาที่ รพ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ชัดเจนและการรักษาที่ถูกต้องแม่นยำ และมีการติดตามอาการเพิ่มเติมค่ะ หมอแนะนำว่าใหเไปพบแพทย์ที่ รพ อีกครั้งเพื่อความมั่นใจค่ะ ส่วนยาที่รับประทานไปแล้วไม่เป็นไรค่ะ อาจนำตัวอย่างยาไปให้แพทย์ที่จะทำการรักษาดูด้วยถ้ามียาเหลือค่ะ