January 01, 2019 10:57
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ ปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดบ่อยๆ เช่น
- สุขอนามัยส่วนตัว หลังเข้าห้องน้ำแล้วซับไม่แห้ง มีความอับชื้น ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องคลอดได้
- การมีเพศสัมพันธ์
- การทานยาปฏิชีวนะบ่อย โดยไม่มีความจำเป็นหรือไม่มีข้อบ่งชี้ เช่น ทานยาปฏิชีวนะบ่อย เมื่อเป็นหวัดที่เกิดจากไวรัสทั่วไป กรณีนี้พบได้บ่อย เมื่อทานยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะโดยไม่มีข้อบ่งชี้ ยาจะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียตัวดี หรือแบคทีเรียประจำถิ่นในร่างกาย รวมทั้งในช่องคลอด จึงทำให้เสียสมดุลของเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด และเกิดการติดเชื้ออื่นที่ทำให้เกิดโรคขึ้นได้ค่ะ
- มีการส่วนล้างช่องคลอดเป็นประจำ ก็ทำให้ความเป็นกรดในช่องคลอดลดลง และเสียสมดุลของเชื้อแบคทีเรีย จึงเกิดโรค
- มีโรคประจำตัว ที่ต้องได้รับยาเสตียรอยด์หรือยากดภูมิคุ้มกันเพื่อรักษา
- โรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- โรคอ้วน
เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เคยติดเชื้อราในช่องคลอดค่ะ จึงไปพบแพทย์ได้ยามาทาน เป็นยาฆ่าเชื้อรา หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ก็กลับมาคันอีกจึงไปปรึกษาร้านยา ก็รับยามาทานอีกจากนั้นหายคันไปประมาน 4-5 วันก้กลับมาเป็นอีก จึงไปพบแพทย์อีกครั้ง รอบนี้แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นติดเชื้อแบคทีเรียค่ะ ส่วนเชื้อราได้หมดไปแล้ว (ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์) จึงได้รับยามาทาน 14 เม็ด(7วัน) พร้อมยาเหน็บ 6 เม็ด (ขณะใช้ยาเหน็บ ไม่สามารถเหน็บเข้าไปลึกได้ค่ะ และรู้สึกว่ายาไม่ค่อยละลาย) อาการคันดีขึ้น แต่ผ่านมาวันที่ 5 ก็เริ่มคันใหม่ ไม่ทราบว่าการติดเชื้อซ้ำเกิดจากอะไรคะ แล้วจะมีวิธีป้องกันอย่างไร
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)