สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ21ปี มีประจำเดือนตั้งแต่วันที่ 13/04/62 ประจำเดือนหมด 16/04/62 เป็นไข้+หลอดลมอักเสบ ได้แอดมิดเข้าโรงพยาบาลนอนให้ยาฆ่าเชื้ออยู่2คืน ปกติทานยาคุมค่ะแต่หยุดไปประมาณ2เดือนแล้วแต่เดือนนี้เริ่มกินใหม่วันที่แตก.มาครั้งแรกค่ะ ตั้งเเต่แอดมิดก็ไม่ได้ทานยาคุมต่อค่ะ พอออกจากรพ.วันที่ 19/04/62 มีเลือดสีข้นไหลออกมาเหมือนประจำเดือนเริ่มจะมาใหม่ค่ะ 20/04/62 มีอาการปวดท้องเหมือนประจำเดือนมาวันแรกค่ะแต่ปวดไม่มาก มีเลือดออกมาเรื่อยๆเป็นสีแดงสดไม่มีกลิ่นเหม็นค่ะ เช้า 23/04/62 ไม่มีเลือดออกแล้ว แต่ได้มีเพศสัมพันธ์คืนที่23/04/62 มีเลือดออกมากปนๆกับน้ำใสๆค่ะ หนูไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาเกือบเดือนค่ะเพราะป่วยเป็นไข้ อยากถามว่าอันตรายไหมคะ เป็นเพราะฮอร์โมนแปรปรวนหรือผิดปกติไหมคะ เครียดมากค่ะ

หากเลือดที่ออกมาในวันที่ 13 - 16 เมษายนเป็นประจำเดือนจริง ๆ (นั่นคือ มีเลือดออกมาจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน รวมถึงมาตามรอบประจำเดือนปกติ หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก) เลือดที่พบในวันที่ 19 - 22 เมษายนก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ซึ่งน่าจะเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย เพราะพบห่างจากประจำเดือนรอบล่าสุดไม่นาน อีกทั้งมีประวัติรับประทานและหยุดรับประทานยาคุมอย่างไม่เหมาะสม

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 23 เมษายน ถ้าไม่ได้ป้องกันใด ๆ หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากค่ะ เพราะไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาที่เคยใช้แล้ว ดังนั้น หากยังไม่พร้อมจะมีบุตร แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาได้บ้าง แต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำก็ต้องใช้ถุงยางทุกครั้งค่ะ