มีอาการชาทีี่นิ้วมือทั้งสองข้างครับ ชาแต่ไม่ปวด และไม่มีอาการปวดที่ต้นคอหรือบ่า อยากทราบว่าเป็นอะไรครับ

อาการชาที่นิ้วมืออาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ปลายประสาทอักเสบ
- เบาหวาน
- เส้นประสาทบริเวณข้อมือหรือแขนถูกกดทับ
- มีการกดทับเส้นประสาทบริเวณคอ
- ขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี 1, 6 และ 12

การจะบอกสาเหตุได้ต้องอาศัยการตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพิ่มเติมครับ
แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุดูครับ

สวัสดีครับเบื้องต้นอาจจะเป็น Carpal tunnel syndrome ได้ครับ ซึ่ง Carpal tunnel คือ ช่องที่อยู่ด้านหน้า(volar side)ของข้อมือเป็นช่องทางติดต่อระหว่างแขนท่องล่าง (forearm)ไปยังฝ่ามือ(palm) ขอบเขตด้านหลังเป็นกระดูกข้อมือ ด้านหน้าเป็น deep transverse carepal ligament ภายในประกอบไปด้วยเส้นเอ็น flexor digitorum profunus, flexor digitorum superficailis, flexor
pollicis longus และ median nerve การขยับข้อมือ การกระดกข้อมือขึ้น-ลง จะท าให้ช่อง carpal tunnel นี้ตีบ
แคบลง เกิดการกดทับเส้นประสาทmedianได้ และจะทำให้รู่สึกมือชาได้ครับ

อาการชาปลายมือมีสาเหตุได้หลายอย่างครับ เช่น
1.สาเหตุจากการที่ผังผืดดึงรั้งเส้นประสาทที่ข้อมือ ทำให้การนำประสาทของเส้นประสาทที่มือไม่ดี เกิดอาการชาที่มือได้โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง เป็นต้น
2.การกดทับเส้นประสาทที่นำความรู้สึกบริเวณนิ้วนางนิ้วก้อย และบางส่วนของนิ้วกลาง ทำให้เกิดการชานิ้วกลางนิ้วก้อยและบางส่วนของนิ้วนางได้
3.สาเหตุจากกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการชาปลายมือได้เช่นกัน
4.สาเหตุจากโรคเบาหวาน ความดัน ทำให้มีการทำงานของเส้นประสาทที่ผิดปกติและชาได้
5.โรคประจำตัวอื่นๆ โรคติดเชื้อ เช่น เอชไอวี เป็นต้น โรคมะเร็ง ก้ทำให้มีอาการได้ครับ มักมีน้ำหนักลด อ่อนเพลีย ร่วมด้วย
6.สาเหตุจากการขาดวิตามิน B1,6,12 รวมทั้ง พบได้ในผู้ป่วยติดสุรา ครับ
อย่างไรก้ตามอาการชาปลายมือส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับงานทำงานที่ต้องใช้มือมาก หรือต้องพิมพ์ ใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เพื่อนที่จะได้รับการรักษาที่ตรงกับโรคครับ