คุณหมอคะ หนูมีความรู้สึกเศร้า ใจหดหู่ ไม่สดชื่น จิตใจไม่มีความสุขเลยคะ ไม่อยากพูดคุยกับพ่อเเม่เลย ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่คนเดียว เบื่อชีวิตไปหมด เบื่อทุกคนรอบข้าง เบื่อตัวเอง เบื่อคน จนอยากหนีไปสักที่ๆไม่มีใคร จนบางทีก็คิดว่าถ้าเราตายไปจะเป็นยังไง เเละรู้สึกช่วงนี้พักผ่อนมากกว่าปกติ เหมือนกลับมาก็ต้องนอน เเล้วร้องไห้ง่ายมาก พอนึกถึงเรื่องในอดีตมันก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาตัวเองได้เลยคะ ทานอาหารได้น้อยลง มันไม่รู้สึกหิวเลยคะ หนูกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่าคะ

ถ้าสงสัยว่ามีภาวะซึมเศร้า ควรหาเวลาปรึกษาจิตเเพทย์ครับ หรือ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ครับ

หรือทำแบบประเมินโรคซึมเศ้รา
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
กลุ่มโรคซึมเศร้า คือ มีอาการนอนไม่หลับ หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบหรือกิจกรรมที่เคยชอบ ไม่มีสมาธิ ไม่ค่อยมีเเรง เบื่ออาหาร มีความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง
..............
หมอเเนะนำให้ไปพบจิตเเพทย์ครับ คนไข้บางกลุ่มจะอายที่ต้องไปพบจิตเเพทย์ เเต่จริงๆไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเเต่อย่างใด (และ กรณีถ้าเป็นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ อยากไปตรวจโดยไม่มีผู้ปกครองก็สามารถทำได้ครับ ถ้ามีอันตราย หรือจำเป็นต้องเเจ้งผู้ปกครอง คุณหมอจะเเจ้งคนไข้ก่อนครับ)
นอกจากคุณจะได้รับคำเเนะนำที่ดี คุณหมอจะประเมินว่าจำเป็นต้องได้รับการรักษา คือ ยาต้านซึมเศร้า ซึ่งเป็นยาปรับระดับสารสื่อประสาทในสมองครับ

จากอาการที่เล่ามา หากมีอาการต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์ ถือว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้มากเลยนะคะ

ซึมเศร้า มีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้ความคิด ความจำ การแสดงอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆผิดปกติไปจากเดิม

อาการซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 อาการ และเป็นต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์
- เบื่อหน่าย
-ท้อแท้ เศร้า
-อ่อนเพลีย
-ขาดสมาธิ
-มีปัญหาการนอนหลับ
-มีปัญหาด้านการกิน
-หงุดหงิดง่าย
-รู้สึกไร้ค่า
-อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บ

ส่วนการรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือ การรักษาด้วยยาร่วมกับการทำจิตบำบัด ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยให้ควบคุมความคิด อารมณื ต่างๆได้ดีขึ้น ส่วนจิตบำบัดเป้นการฟื้นฟูสภาพจิตใจ ช่วยให้ปรับตัวกับปัญหาต่างๆได้เหมาะสมมากขึ้นค่ะ

สิ่งสำคัญ ระหว่างทำการรักษา ควรดูแลตัวเองดังนี้นะคะ
1. ทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หากมีอาการผิดปกติระหว่างทานยา ให้พบแพทย์ก่อนนัด
2.พักผ่อนให้เพียงพอ
3.หมั่นออกกำลังกาย
4.งดสารกระตุ้นทุกชนิด
5.ไปพบแพทยืตามนัดทุกครั้ง

สวัสดีครับ

จากอาการที่เล่ามาดูแล้วก็มีหลายอาการอยู่นะครับที่อาจจะบ่งบอกถึงภาวะโรคซึมเศร้า แต่ไม่อยากให้กลัวกับโรคนี้นะครับเพราะเป็นโรคที่สามารถจัดการและรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติได้ หากว่าได้รับการสนับสนุนและเพียงพอ

ในเบื้องต้นอาจจะต้องลองดูในเรื่องปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกเศร้า หรือรู้สึกกดดัน ความเครียด จากการเจอคนในบ้าน หรือจากการทำงาน การเรียน เป็นตัวกระตุ้นและอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโรคซึมเศร้าขึ้นครับ การเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเป็นทางเลือกที่แนะนำนะครับ เพื่อที่จะได้รับการประเมินและการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป

นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ การหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ สนุก หรือผ่อนคลาย และอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเหล่านี้ควบคู่ไปกับการได้รับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอารมณ์และความคิดของตนเองได้ดีขึ้นครับ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยหากทำแบบนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้อย่างมั่นคง แต่อาจจะเป็นการเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ