มีอาการปวดหัวเมื่อวานช่วงบ่าย กินยาแล้วนอนพัก ดีขึ้น แล้วอยู่ดีๆก็ไข้ขึ้น ไม่มีน้ำมูกปวดหัว ปวดตัว กินยานอนพัก มาวันนี้ไข้ขึ้นอีก ปวดตัวนิดหน่อยไม่เท่าเมื่อวาน เช็ดตัวแล้วแต่ไข้ไม่ลด กินอาหารได้ไม่เยอะ อันนี้เป็นไข้เลือดออกรึเปล่าคะ ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว G6PD

สวัสดีครับ
อาการตามที่เล่ามานั้นเป็นอาการที่ยังไม่มีความจำเพาะอาจเป็นได้จากทั้งการเป็นไข้หวัด การติดเชื้อไวรัสทั่วไป และการเป็นไข้เลือดออกครับ

อาการของไข้เลือดออกนั้นจะทำให้มีไข้สูงลอยติดต่อกันนาน 3-7 วัน ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร

ในเบื้องต้นนั้นอาจรับประทานอาหารอ่อนๆ รับประทานยาพาราเซตามอลตามอาการไปก่อนได้คร้บ และถ้าหากมีไข้สูงติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมครับ

สวัสดีครับ
อาการไข้เฉียบพลัน ปวดหัว
มีสาเหตุมาได้หลายอย่างครับ ได้แก่
1.การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ปวดตามตัวร่วมดัวย ,
ไข้เลือดออก อาจมีไข้สูงลอย สังเกตเห็นจุดเลือดออกตามตัว (มีหรือไม่มีก็ได้) ปวดท้อง เบื่ออาหาร อาจมีเลือดออกง่ายผิดปกติ เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ บางคนอาจมีเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ตับโต ,

และที่พบบ่อยสุด คือ ไข้หวัดธรรมดา มีอาการไข้ต่ำๆ ไอน้ำมูก เมื่อล้า ปวดเมื่อยได้บ้าง ส่วนใหญ่รักษาตามอาการ ทานยาลดไข้ ทานน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ มักหายเอง โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ

2. การ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น คออักเสบ หูอักเสบ ต่อมทอลซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น

ดังนั้่น ขอแนะนำคือ การพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ หากมีไข้ทานยาลดไข้ สามารถทานยารักษาตามอาการได้ เช่น ยาแก้ไอ หรือลดน้ำมูก พักผ่อนให้เพียงพอครับ

หากอาการไม่ไดีขึ้น เช่น ไข้สูงเกิน48 ชม มีปัสสาวะแสบขัด จุดเลือดออกตามตัว ไอมาก ถ่ายเหลวมาก ให้ไปพบแพทย์ครับ

แนะนำให้ไปรพ.เพื่อ ซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ เพราะไข้ เป็นปฏิกริยาตอบสนองของร่างกาย เกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น การติดเชื้อ การอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เป็นต้นครับ
ถ้าไข้ หนาวสั่น ส่วนใหญ่จะเป็นไข้สูง แนะนำให้รีบไปตรวจร่างกายที่รพ.จะดีที่สุดครับ เพื่อค้นหาภาวะติดเชื้อ และได้รับยาฆ่าเชื้อถ้าสงสัย เพราะถ้าปล่อยนานไป อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด และเกิดภาวะช็อคจากการติดเชื้อได้ครับ