August 19, 2019 11:54
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การมีเพศสัมพันธ์หลั่งใน ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 24% หรือถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% นะคะ
แต่เมื่อแฟนผู้ถามใช้วิธีหลั่งนอก ไม่ว่าจะอยู่ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" หรือไม่ก็ตาม ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ
ถ้าผู้ถามรับความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15% แทนได้นะคะ และแม้จะเคยใช้มาแล้ว แต่ถ้าจำเป็น ก็สามารถใช้อีกได้ค่ะ
สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ไม่ใช่เพราะกังวลเรื่องอันตรายจากยา แต่เป็นเพราะประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงนัก การนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เช่น ใช้เพราะไม่อยากใส่ถุงยาง หรือใช้เพราะไม่อยากใช้ยาคุมรายเดือน จึงเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเองนะคะ
ในกรณีนี้ หากต้องการลดความเสี่ยงที่มี 22% ให้น้อยลง ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ โดยให้รับประทานทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
และสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้เลยนะคะ นั่นคือ ถ้ายี่ห้อที่ใช้เป็นชนิดที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็ให้รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ชนิดที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
อาจพบผลข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง และมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ภายใน 1 สัปดาห์หลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้
แต่ไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดที่ชี้ชัดได้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากผู้ถามไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ควรให้แฟนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.เว้นมาสองสามปี กินยาคุมฉุกเฉินอีก ไม่เป็นไรครับ ปกติเเนะนำไม่เกินแผงละสองเดือนครับ
2.ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เเล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน7วันจนถึงหลัง7วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องเเทบไม่มีครับ
เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้กะช่วงเวลาตกไข่ยาก หรือประจำเดือนมาสม่ำเสมอเเต่มีเพศสัมพันธ์ช่วง14วันนับจากวันเเรกที่ประจำเดือนรอบนั้นมา จะเป็นช่วงไข่รก โอกาสท้องมากขึ้นครับ
ดังนั้นกรณีคนไข้โอกาสท้องน้อยมากครับ
เเต่ถ้าไม่มั่นใจ พิจารณายาคุมฉุกเฉินได้ครับ
ถ้ายังไม่เกิน120 ชม. นับจากที่มีเพศสัมพันธ์
ให้รับประทานเป็น “ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน” ครับ ตามร้านยาจะเป็น ยี่ห้อ Postinor,Madonna {ตัวยาชนิดเดียวกัน}
แต่ละกล่องจะมี ยา 2 เม็ด
หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte
.............
รับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดย
.............
ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน ชนิด 2เม็ด เช่น Postinor หรือ Madonna ได้สองวิธี
1.รับประทานทันที 2 เม็ด
2.รับประทาน 1 เม็ดทันที เเละรับประทาน เม็ดต่อไป ในอีก 12 ชม.
สองวิธีประสิทธิภาพไม่เเตกต่างกัน (หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte ก็กินเม็ดเดียวไปเลยครับ)
วิธีเเรกสะดวก แต่อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า
วิธีที่สอง อาการคลื่นไส้อาเจียนน้อย เเต่ต้องดูเวลาดีๆ ครับ
.............
หากอาเจียนภายใน 2 ชม.หลังกินยา ต้องกินใหม่นะครับ เพราะยายังไม่ได้ดูดซึม
.............
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ได้ครับ
และ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
อย่างที่บอกยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานเกิน2แผงต่อเดือนครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เเนะนำเป็นคุมกำเนิดรายเดือน หรือใช้ถุงยางอนามัยดีกว่าครับ
เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนขนาดสูง
ในระยะยาวมีผลต่อรังไข่ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินนะคะ
ในปัจจุบัน ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าห้ามใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละกี่ครั้งค่ะ
คำเตือนที่เคยแนะนำกันว่า "ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละ 2 แผง" นั้น มาจากความกังวลในอดีตว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก บริษัทยาจึงพิมพ์คำเตือนดังกล่าวไว้ที่ฉลาก
แต่เมื่อมีการศึกษาต่อมาพบว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกอย่างที่เคยกังวล บริษัทยาจึงนำคำเตือนดังกล่าวออกไปจากฉลากแล้ว
และยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดเลยที่ชี้ชัดได้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉิน แม้จะใช้เกินขนาดที่แนะนำหรือใช้ซ้ำหลายรอบในเดือนเดียวกัน จะทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นต่อรังไข่หรือต่อสุขภาพร่างกายอื่น ๆ
..
..
..
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีอันตราย แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้โดยไม่จำเป็นนะคะ เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่า เมื่อนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เช่น ใช้เพราะไม่อยากใส่ถุงยาง จึงเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่า
ซึ่งคำแนะนำที่ว่าไม่ควรใช้เกินเดือนละ 2 แผง อาจทำให้ผู้ใช้บางรายที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย เช่น เดือนละ 1 - 2 ครั้ง เกิดความเข้าใจผิดและนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ทำให้เสี่ยงที่จะป้องกันล้มเหลวและตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่า
คำแนะนำที่เหมาะสมก็คือ ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ ไม่ว่าจะใช้กี่ครั้งก็ตาม
แต่ในกรณีที่จำเป็น เช่น ถูกข่มขืน, ถุงยางฉีกขาด, ลืมรับประทานยาคุมรายเดือนจนไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองเพื่อลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลงได้ค่ะ
และแม้จะเกิดเหตุฉุกเฉินบ่อย ๆ ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้เท่าที่จำเป็น ต่อให้เกินเดือนละ 2 แผงก็ไม่เป็นไร
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุฉุกเฉินซ้ำ ๆ จนต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ก็คงต้องทบทวนว่าเหตุใดจึงเกิดความผิดพลาดบ่อยครั้ง และพิจารณาปรับหรือเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ให้เหมาะสมด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ พึ่งมีเพศสัมพันธ์หลังหมดประจำเดือน1วันแล้วแฟนหลั่งนอก มีโอกาสท้องไหมคะ แล้วแฟนซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ซึ่งส่วนตัวเราเคยกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว2-3ครั้งเมื่อ2ปีที่แล้ว หากทานอีกจะเป็นอันตรายมากไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)