รู้สึกตัวร้อน แต่ลองวัดปรอทแล้วไม่มีไข้ เป็นมา 2 วันแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ และก็อุณหภูมิเท่าไหร่ถึงเรียกว่ามีไข้คะคุณหมอ

สวัสดีครับ
การที่รู้สึกตัวร้อนแต่วัดไม่ได้ไข้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีเทคนิคการวัดไข้ที่ไม่ถูกต้อง
- ผลจากอากศร้อน
- ภาวะขาดน้ำ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เป็นต้นครับ

ส่วนอุณหภูมิในร่างกายที่จะถือว่าเป็นไข้นั้นนิยามอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรคและตำแหน่งที่วัดไข้ครับ แต่โดยมากก็มักจะต้องมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียสขึ้นไป

ในกรณีที่รู้สึกว่าตัวเองมีไข้ติดต่อกันหลายวันก็สามารถไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการหาสาเหตุเพิ่มเติมก่อนได้ครับ

จริงๆไข้มีหลายเกณฑ์นะครับ
เเต่โดยทั่วไป หากวัดอุณหภูมิทาง รักแร้ หู ได้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือวัด ทางทวารหนัก เกิน 38 องศาเซลเซียส ก็จะถือว่ามีไข้ครับ
(ซึ่งก็มักจะมีอาการผิดปกติร่วมด้วยนะครับ เช่น ถ้าไข้จากติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ก็ต้องมีไอ เสมหะเขียว ไข้จากติดเชื้อระบบทางเดินอาหารจะมีอาเจียน ถ่ายเหลว เป็นต้นครับ)

เบื้องต้น สามารถทานยาลดไข้Paracetamolได้ทุก 4-6 ชม เช็ดตัวลดไข้ ทานยารักษาตามอาการไปก่อนได้ เช่น ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก รักษาตามอาการ(ปรึกษาเภสัชกร)หรือเจ็บคอให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆครับ พักผ่อนให้เพียงพอครับ
ส่วนยาฆ่าเชื้อ/ยาปฎิชีวนะ ไม่แนะนำให้หามารับประทานเองครับ เพราะมีโอกาสที่เชื้อจะดื้อยาในอนาคตได้ครับ

เเต่ถ้าไข้สูง ปวดตัว ปวดหัวมาก กินข้าวไม่ได้ อ่อนเพลียมาก
หรือ หายใจหอบ หายใจไม่ทันเเนะนำพบเเพทย์ครับ