อายุ 21 ปี ปัสสาวะบ่อย(5-6 ครั้ง) ในตอนกลางคืนหลายวันติดต่อกันแล้วค่ะทั้งที่ไม่ได้ดื่มน่ำเยอะ ปวดเรื่อยๆจนกว่าจะหลับเลยค่ะ อยากทราบว่าผิดปกติอะไรไหมคะ และก่อนหน้านี้ได้ไปฉีดยาคุมมาค่ะ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกันรึป่าว

สวสัดีค่ะ อาการปัสสาวะบ่อย มีได้​หลายสาเหตุค่ะ ในผู้หญิงที่ไม่มีโรคประจำตัว จะนึกถึงโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นอันดับแรก อาการมักจะมาด้วย ปัสสาวะบ่อย หรือมีปัสสาวะแสบขัด กะปริดกะปรอย หรือปัสสาวะมีลิ่มเลือดปนออกมาได้ การรักษาต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ดื่มน้ำมากๆค่ะ

นอกจากนี้ อาการที่มาด้วยปัสสาวะบ่อย อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆเช่น โรคเบาหวาน พบได้ว่ามีปัสสาวะบ่อย ผู้ป่วยอาจจะมีความเสี่ยงเช่น ประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน หรือมีภาวะอ้วน

ส่วนเรื่องการฉีดยาคุมกำเนิด มักไม่พบว่ามีความผิดปกติของระบบขับถ่ายปัสสาวะนะคะ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน

แนะนำควรไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลดูเพื่อหาสาเหตุนะคะ

ปกติแล้วตอนกลางคืน หลังจากเข้านอนไปแล้ว ไม่ควรมีการตื่นขึ้นมาปัสสาวะ หรือไม่ควรเกิน 1-2 ครั้ง ถ้าหากว่าก่อนนอนไม่ได้มีการเื่มน้ำในปริมาณมาก ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีผลต่อการปัสสาวะ เช่น ชากาแฟ แอลกอฮอล์ ก็อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น

ส่วนมาก มักเกิดขึ้นจากการติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะ มีกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือมีการอักเสบติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ครับ มักจะมีอาการคือ มีไข้ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะขุ่น บางรายอาจมีปัสสาวะเป็นเลือด

หรือบางคนอาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน ในกรณีที่อายุยังน้อยอยู่ คืออายุ 21 ปี อาจคิดถึงเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งมักเป็นมาตั้งแต่กำเนิด โดยจะมีอาการปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย น้ำหนักลด อ่อนเพลีย หรืออาจเป็นโรคเบาจืดที่ทำให้ปัสสาวะมีปริมาณมากได้เช่นเดียวกันครับ

จะเห็ยว่า สาเหตุของการปัสสาวะบ่อยนั้นมีหลายสาเหตุ วิธีการรักษาแต่ละสาเหตุก็แตกต่างกัน เช่นถ้ามีการอักเสบติดเชื้อ เราก็จะใช้ยาปฏิชีวนะ หรือถ้าปัสสาวะบ่อยนั้นเกิดจากเบาหวาน ก็จะต้องมีการคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณ์ที่เหมาะสม เช่น การฉีดอินซูลิน ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการดูแลตัวเองที่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความถูกต้องในการวินิจฉัยและการรักษา ควรไปพบแพทย์นะครับ