สวัสดีครับ เมื่อเดือนที่แล้วแฟนได้ทานยาคุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 21/04 แล้วปรากฎว่ามีเลือดคล้ายประจำเดือนออกมาเมื่อวันที่ 1/05-5/05 ตอนแรกนึกว่าเป็นประจำเดือน แต่พอมาวันที่ 12/05 แฟนบอกว่า มีประจำเดือนออกมา ผมเลยสงสัยครับว่า ครั้งแรกที่ประจำเดือนมา(ช่วงวันที่ 1/05-5/05) อาจจะเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน(ไปอ่านเจอมา) และพอมาวันที่ 15/05 ช่วงประมาณตี1 ผมได้มีอะไรกันแฟน ในช่วงที่แฟนกำลังมีประจำเดือน(เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 12/05) ใส่ถุงยาง หลั่งนอก แต่ไปเช็คแล้วปรากฎว่าถุงยางรั่ว ผมเลยอยากจะสอบถามคุณหมอครับ 1.อาการเลือดออก ของวันที่ 1/05-5/05 เป็นผลข้างเคียงของประจำเดือนไหม 2.ถุงยางรั่ว หลั่งนอก ตอนแฟนมีประจำเดือน(วันที่15/05) จะต้องทานยาคุมฉุกเฉินไหมครับ และมึอาการท้องไหมครัข

1. เป็นผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ครับ เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น ช้าลง หรือมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้
2. ยังมีควาเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่ครับ เนื่องจากถุงยางมีการรั่ว จึงมีความเป็นไปได้ว่าในช่วงแรกอาจมีอสุจิที่ปนมากับน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายหลุดเข้าไปได้ครับ รวมถึงหลังกินยาคุมฉุกเฉินจะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ จึงบอกได้ยากว่าวันตกไข่คือวันใด ดังนั้นควรกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ

หลังจากนี้หมอแนะนำว่าควรเลือกวิธีคุมกำเนิดที่มีความปลอดภัยมากขึ้นครับ เช่น การฉีดยาคุม ฝังยาคุม
การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถใช้ได้ไม่เกินเดือนละ 2 ครั้ง และถ้าใช้บ่อยประสิทธิภาพการคุมกำเนิดอาจจะลดลงครับ
หากหลังจากนี้ 1-2 เดือนมีลักษณะประจำเดือนที่ไม่ปกติ แนะนนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยครับ เพื่อความแน่ใจ

จากที่เล่ามา เลือดที่ออกมาตอนวันที่ 1-5/05 อาจเป็นเลือดกระปิดกระปอย ที่เกิดขึ้นจากการทานยาคุมฉุกเฉินได้ครับ ซึ่งปกติคนส่วนใหญ่จะมีเลือดออกหลังทานประมาณวันที่2-7 นับจากที่ทานยาคุมฉุกเฉินไป (แต่บ้างคนก็ไม่มี) จากนั้นวันที่ 12/05 ประจำเดือนมา ก็สามารถเกิดขึ้นได้ครับ ถ้าปกติรอบเดือนมาประมาณช่วงนี้ โดยที่การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 15 ยังถือว่าอยู่ในช่วงหลัง 7 (ระยะปลอดภัย) แต่อยากแจ้งว่าการนับหน้า 7 หลัง 7 มันอาจมีความคาดเคลื่อนได้สูงนะครับ โดยที่ถุงยางรั่ว หลั่งนอก ก็มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ รวมๆแล้วความเสี่ยงค่อนข้างน้อยในการตั้งครรภ์ แต่ถ้ายังไม่พร้อมตั้งครรภ์และมีความกังวล แนะนำให้ทานยาคุมฉุกเฉินดีกว่าครับ กรณีนี้ไข่ยังไม่น่าจะตก การทานยาคุมฉุกเฉินยิ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด (แต่ยังไงก็ไม่ 100% นะครับ) จะได้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้น้อยที่สุดครับ

ขอถามเพิ่มเติมว่าประจำเดือนรอบปกติของเดือน มีค.และ เมย. มาวันไหนคะ ถ้าจำได้ขอระบุวันนะคะ แล้วประจำเดือนปกติของคุณผู้หญิง มีระยะห่างกี่วัน สม่ำเสมอหรือไม่คะ

กรณีที่ประจำเดือนของวันที่ 12 พค เป็นรอบปกติ โอกาสท้องจะน้อยมากค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงมีประจำเดือน ยังไม่มีการตกไข่ของรอบใหม่ ไม่จำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนที่มาวันที่ 1 พค อาจเป็นเลือดออกผิดปกติที่พบได้จากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน

ถ้าต้องการคุมกำเนิด แนะนำให้ใช้ 2 วิธีร่วมกัน คือถุงยางอนามัย(สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย)​ และยาคุมกำเนิดแบบกินเป็นแผงปกติ หรืออาจเลือกใช้วิธีอื่นเช่นฉีดยาคุมหรือฝังเข็มคุมกำเนิด ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดจะสูงขึ้น โอกาสตั้งครรภ์น้อยลง

สามารถทานได้ครับ ถ้ามีความจำเป็นต้องทาน อาจมีอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื้นไส้ อาเจียน ได้บ้าง แต่ไม่แนะนำให้ทานบ่อยๆ เพราะ ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดน้อยกว่าวิธีการทานยาคุมแบบรายเดือน หรือวิธีอื่นๆ ดังนั้นก็จะมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่มาก และที่ไม่แนะนำให้ทานบ่อยๆอาจส่งผลต่อรังไข่ได้บ้างครับ