ขอสอบถามหน่อยค่ะคือกินยาคุมรายเดือนแบบ28เม็ดฮอร์โมนรวมแบบต่ำค่ะ กินมา13เม็ดกินตรงเวลาทุกครั้งไม่เคยขาด แต่จะมีอาเจียนหลังกินยา3วันค่ะแต่อาเจียนหลังกินยาแล้ว19 hr แล้วมีอะไรกับแฟนแต่หลั่งนอกค่ะหลังกินได้13เม็ด และวันที่14ก็มีอะไรกับแฟนค่ะแต่หลั่งนอกอีกเช่นกันแต่กินยาปกตินะคะ มีโอกาสท้องสูงมั้ยคะ ถ้ากินยาคุมฉุกเฉิมร่วมด้วยได้มั้ย

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นโอกาสตั่งครรภ์จะยังไม่สูงมากครับ เนื่องจากมีการรับประทานยาคุมสม่ำเสมอมาโดยตลอดและการอาเจียนหลังรับประทานยาไป 19 ชั่วโมงก็จะไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของยาเนื่องจากยาคุทจะถูกดูดซึมไปตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกหลังรับประทานยาแล้วครับ

ในกรณีนี้โอกาสตั้งครรภ์จะมีเพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมา และไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ

ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ แต่ถ้าใช้ไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว (ซึ่งใช้ได้เช่นกันหากไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่) ก็จะต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้

สำหรับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ไม่ว่าจะเป็นชนิดฮอร์โมนต่ำ, ต่ำมาก หรือสูง ใช้หลักการเดียวกัน และประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่แตกต่างกันหากใช้ถูกต้องและตรงเวลานะคะ

ดังนั้น หากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์หลังจากที่รับประทานยาคุมติดต่อกันไปแล้ว 13 เม็ด ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแผงนี้แล้วค่ะ จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ โอกาสตั้งครรภ์คือ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือน ซึ่งความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ

หากไม่ได้อาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยาก็ไม่มีปัญหาค่ะ ถือว่ายาคุมมีการดูดซึมไปแล้ว

และเมื่อมีผลคุมกำเนิดจากยาแล้ว ไม่ว่าจะหลั่งใน, หลั่งนอก หรือใช้ถุงยาง ก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำมากไม่แตกต่างกัน ตามผลป้องกันของยาคุมรายเดือนนั่นเองค่ะ

ในกรณีของผู้ถามจึงไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินให้เกิดผลข้างเคียงเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นนะคะ แนะนำให้รับประทานยาคุมรายเดือนแผงนี้ให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และช่วยลดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยค่ะ

ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดในปัจจุบันที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ค่ะ อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามใช้ยาคุมรายเดือนได้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ก็คือ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

หากผู้ถามเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันที่ 2 ของการมีประจำเดือน ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยนะคะ (แต่ถ้าต้องการใช้ร่วมกันก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามค่ะ)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีประจำเดือน ควรงดมีเพศสัมพันธ์แล้วรอให้ประจำเดือนหายดีก่อน เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานนะคะ

กลไกหลักของยาคุมที่ผู้ถามใช้ คือการไปยับยั้งการตกของไข่ และเมื่อไม่มีไข่ตก จะหลั่งในแล้วมีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้มาก หรือหลั่งนอกที่มีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้น้อยกว่า หรือจะใช้ถุงยางเพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไปในช่องคลอด ก็ไม่แตกต่างกันค่ะ เพราะอสุจิไม่สามารถผสมกับไข่ได้อยู่ดีนั่นเอง

หากผู้ถามใช้ยาคุมถูกต้องและตรงเวลา ยาจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไข่ตกได้ใกล้เคียง 100% จึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

ประสิทธิภาพของยาคุมรายเดือนสูงกว่ายาคุมฉุกเฉินหลายเท่า เมื่อมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือนอยู่ การใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มจึงไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ และทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยามากขึ้นโดยไม่จำเป็นค่ะ

แนะนำว่าไม่ต้องกังวลนะคะ และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่ม ขอแค่เพียงให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อให้ตรงเวลาสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้วค่ะ