พ่อกดดันทุกๆเรื่อง ควบคุมทุกๆอย่าง ไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ เวลาไม่ทำตามหรือทำอะไรไม่ได้ดั่งใจมักด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รู้สึกไม่ได้มีชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นหรือได้รับ ไปเที่ยวหรืออยากไปไหนก็ไปไม่ได้ เรียนอยู่ที่กทม.แต่ตอนเย็นต้องไปกลับอยุธยาทุกวัน มีการบ้านแต่เวลาพ่อใช้ห้ามปฏิเสธเพราะจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เคยอธิบายแล้วว่ามีงานแต่กลับโดนตอกกลับด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและรู้สึกสะเทือนจิตใจเป็นอย่างมาก เวลาเหนื่อยหรือท้อจากงานไม่เคยได้รับกำลังใจจากพ่อเลย เวลามีงานกลุ่มหรือเพื่อนนัดไม่สามารถมาได้เพราะพ่อไม่อนุญาติ ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปไหน รู้สึกกดดัน เครียดมากเพราะไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่พ่อให้ทำสักครั้งแต่พ่อกลับไม่เคยเข้าใจเลย เอาแต่ด่าแต่ว่า อยากหนีไปให้ไกลๆ จนตอนนี้ไม่ไหวแล้ว เหนื่อย ท้อมาก มีความคิดอยากตาย รู้สึกไม่โอเคที่ต้องเจอปัญหาแบบนี้ทุกวัน

จากปัญหาที่เล่ามา หมอคิดว่าอาการดังกล่าวเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้นะคะ ยังไงการที่มีภาวะคิดอยากฆ่าตัวตายอันนี้อันตรายมาก หมอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์พูดคุยปัญหาปรึกษากับคุณหมอดูค่ะ

จิตใจลึกๆของหนูจริงๆแล้วรักพ่อมาก การที่เรารักพ่อมาก เราก็อยากให้พ่อรักเรามากเช่นกัน แต่วิธีการแสดงออกของพ่ออาจไม่ตรงใจตามที่หนูต้องการ การที่หนูเรียกร้องให้พ่อเข้าใจหนูตอนนี้อาจทำได้ยาก แต่สิ่งที่หนูสามารถทำได้ขณะนี้คือ
1. ปรับความคิด การที่พ่อเป็นแบบนี้ พ่ออาจมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน อาจจะโดนบังคับมาก่อน แล้วพ่อคิดว่าวิธีการเลี้ยงลูกแบบนี้คือวิธีที่ถูกต้อง พ่อเป็นแบบนี้มาตั้งนานเราจะให้พ่อหันมาเข้าใจตัวเองและปรับตัวพ่อนั้น พ่ออาจทำได้ยาก
2. สิ่งที่หนูกดดัน หนูสามารถหาจังหวะพูดคุยกับพ่อดูก่อน ปรับกันคนละครึ่งทาง บอกความรู้สึกตรงๆไปเลยว่า "เรารู้สึกกดดัน จนไม่อยากอยู่กับพ่อแล้วแต่หนูรักพ่อหนูจึงทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่างต่อไปนี้จะเป็นไปได้ไหมที่พ่อจะให้อิสระให้หนูได้คิดได้ตัดสินใจบ้าง "
3.อาการของหนูตอนนี้อาจไม่ใช่ซึมเศร้า แต่เป็นความเครียดความกดดันจากปัญหาที่มี ตราบใดที่หนูยังรู้สึกว่าชีวิตมีค่า ยังสามารถทำในสิ่งที่ตนเองคาดหวังคือการเรียนได้ อาการแบบนี้เป็นความผิดปกติของการปรับตัว หากมีวิธีการปรับตัวที่เหมาะสมกับปัญหาชีวิตหนูก็จะไม่เครียดค่ะ แต่หากมีปัญหานอนไม่หลับ เบื่อหน่ายชีวิต เบื่ออาหาร หมดอาลัยตายอยาก ตื่นมาไร้เป้าหมาย ชีวิตไร้ค่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แบบนี้อาจหมายถึงซึมเศร้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็แล้วแต่ หากหนูคิดว่าไม่สามารถปรับตัวกับปัญหาได้ก็สามารถพบจิตแพทย์ได้นะคะ