July 30, 2019 19:41
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
เรื่องสิว ถ้าเป็นมากเป็นคนหน้ามัน จริงเเนะนำพบเเพทย์นะครับ โดยเฉพาะเเพทย์ผิวหนัง (ตามรพ.ใหญ่ๆ หรือสถาบันโรคผิวหนัง ถ้าตามคง นิคความงาม จะเป็นหมอทั่วไปซะส่วนมหญ่ครับ)
เพราะสิวเกิดได้ในวัยรุ่น เเต่บางครั้งก็เกิดจากสาเหตุที่ซ่อนอยู่ได้เช่นกัน
เช่น โรคถุงน้ำรังไข่(ในเพศหญิง อาการคือ มีสิวเยอะ มีขนเยอะเหมือนผู้ชาย หนวด ขนหน้าเเข้ง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ)กลุ่มอาการคุชชิ่งเป็นต้น
โดยถ้าสงสัยภาวะถุงน้ำรังไข่หรือสิวขึ้นสัมพันธ์กับประจำเดือน ควรพบสูตินรีเเพทย์ครับ
การรักษาหลักๆ ขึ้นกับความรุนเเรงครับ ถ้าเป็นมากต้องกินยาพวก Tretinoin ซึ่งต้องจ่ายโดยหมอผิวหนังเท่านั้น หรือยารักษาพวก Benzoyl peroxide , RetinA ,Differin ,Clindamycin หรือยากินฆ่าเชื้อ พวกDoxycycline พวกนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาครับ ถ้าอธิบายจะยาวมาก สรุปคือถ้าเป็นไม่มากไปซื้อยาเเละให้คุณเภสัชช่วยอธิบายได้ครับ
ส่วนสิวที่หลังหรือตามตัว เเนะนำให้ใช้ยาที่มีส่วนประกอบของ Salicylic acid เช่น แป้งน้ำศิริราช P-lotion(ยี่ห้อ Ziit หรือซื้อตาม รพ.) , Sprayฉีด Oxe cure เป็นต้นครับ
ส่วนหลุมสิวเเนะนำรักษาหลังสิวสงบลงเเล้ว
แผลเป็นหลุมสิวเกิดจากเคยมีสิวอักเสบ ทำให้มีหนองทำลายไปถึงชั้นหนังเเท้ครับ เมื่อหาย ส่วนหนังเเท้ที่ถูกทำลายจะมีโครงสร้างไม่เหมือนเดิมซึ่งจะเป็นหลุมสิวนั่นเองครับ
หลุมสิวก็จะมีหลายชนิด เช่น เป็นแอ่ง
เป็นกล่อง หรือเป็นรอยเล็บจิก
ซึ่งการรักษา ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหลุมแบบไหนครับ เช่น การใช้เลเซอร์ ซึ่งก็มีเเบบใช้คาร์บอนได้ออกไซด์ หรือปัจจุบันดีขึ้นมาก็เป็นคลื่นวิทยุครับ หรือบางแบบอาจใช้พวกเเต้มกรดTCA ถ้าแผลมีพังผืดมากต้องใช้ การใช้มีดเล็กๆชนิดพิเศษเข้าไปตัดพังผืด ร่วมกับการใช้เลเซอร์เป็นต้น
การรักษาหลุมสิว ไม่มีครีมหรือเวชสำอางค์ใดช่วยให้ตื้นได้ครับ (ยกเว้นพวกรอยดำ รอยเเดง ครีมอาจจะช่วยครับ เช่น AHA)
ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องหลุมสิวราคาค่อนข้างสูงหลักพันถึงหลักหมื่นเเละเบิกไม่ได้
แนะนำให้ปรึกษาคลินิคหรือโรงพยาบาลที่มีหมอผิวหนังครับ เช่น รพ.ใหญ่ๆ ศิริราช รามาธิบดี ถ้าต่างจังหวัดก็ต้องเป็น รพ.ศูนย์ หรือ โรงเรียนเเพทย์ ถ้าเป็นคลินิค ก็ต้องดูครับว่าเเพทย์คนที่รักษาเป็นเเพทย์ที่จบเฉพาะทางด้านผิวหนังจริงหรือไม่ครับ
เพราะส่วนใหญ่คลินิคเสริมความงามทั่วไป จะไม่ใช่เเพทย์เฉพาะทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
สำหรับเรื่องที่ถามมาคือเรื่องการรักษารอยดำหลังจากเป็นสิว โดยมากรอยดำจะใช้เวลาหลักเดือนเพื่อที่จะจางลงค่ะ โดยต้องรอการผลัดเซลล์ผิว โดยมากผิวหนังของเราจะใช้เวลาประมาณ28วันในการผลัดเซลล์ผิว1ครั้งที่จะทำให้รอยดำดีขึ้น โดยมากจะแนะนำให้ใช้ยาลดรอยดำรอยแผลที่มีส่วนผสมของหัวหอม และวิตามินอี เช่น smoothE,hiruscar หรือเป็นเจลทารอยแผล เช่น Dragon blood scar gel เป็นส่วนผสมจากต้นdragon bloodช่วยลดริ้วรอยด่างดำได้ดีค่ะ ใช้ครีมกันแดด และอาจจะใช้RetinA ความเข้มข้นต่ำ เพื่อช่วยให้มีการผลัดเซลล์ผิวได้ดีขึ้นค่ะ การเลเซอร์ลดรอยดำก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถกระตุ้นการผลัดเซลล์และลดรอยลงได้ แนะนำหากทายาไม่ดีขึ้น อาจจะปรึกษาหมอผิวหนังใกล้บ้านเพิ่มเติมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
หากคนไข้ยังอยู้ในวัยเจริญพันธฺอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวเลยได้ลำบาก เนื่องจากสิว ส่วนหนึ่ง เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โทรเพศครับ
สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้แก่
1.สิ่งสกปรกอุดตัน เช่น เครื่องสำอาง ฝุ่นละออง
2.การติดเชื้อราและแบคทีเรีย โดยเฉพาะ P acne
3.ฮอร์โมนเพศ
4.การแพ้สารเคมีต่างๆ
วิธีการรักษาเบื่องต้นที่แนะนำเพื่อรักษาและป้องกันสิวคือ
1.ต้องรักษาความสะอาดครับ
ล้างหน้าอย่างน้อยวันละสองครั้ง รวมถึงสิ่งที่ต้องสำผัสใบหน้าของเรา เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม ถ้าสะอาดจะลดการเกิดสิวครับ
2.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสำหรับผิวแพ้ง่ายครับ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราครับ
นอกจากเครื่องสำอางที่ต้องเลือกแล้ว แปรง พัฟต่างๆที่ใช้ควรทำความสะอาดบ่อยๆ ป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวค่ะ นอกจากนี้ อาจแนะนำ ผลิตภัณฑ์ สำหรับรักษาสิวด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ผสม AHA หรือ salicylic acid ครับ
หากเป็นสิวหัวหนอง / สิวอักเสบ อาจใช้เป็นยาทาละลายหัวสิว เช่น benzoyl peroxide clindamycin gel (ยาฆ่าเชื้อ) เนื่องจาก สิวหัวหนองมักเกิดจากแบคทีเรีย ชื่อ P.acne ครับ สามารถซื้อได้ที่ร้านขายยา
หากสิวเห่อมากๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์ การใช้ยาฆ่าเชื้อแบบกิน หรือ retinoic acid หรือ อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอนุพันธ์ของวิตามินเอ เช่น adapalene ครับ และการใช้ยาสเตียรอยด์ลดการอักเสบช่วงสั้นๆ อาจมีประโยชน์นะครับ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อยาชนิดกินเองครับ
3.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันบนใบหน้านะครับ
4.หากมีสิว ไม่ควรแกะเกา จะทำให้เป็นแผลและหลุมและรอยดำ
5.ออกกำลังกายเป็นประจำ
6.ทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอครับ หน้าจะได้ไม่เหี่ยว
7.ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ตามธรรมชาติ ถ้าเราทานเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมหน้าใสใดๆ เพราะในผักผลไม้ก็มีมากอยู่แล้ว แถมไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วยครับ
8.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
คนไข้ลองปฏิบัติตามดูนะครับ น่าจะช่วยได้พอสมควรครับ
**สำหรับรอยสิว แนะนำดังนี้ครับ
1.หมั่นทาครีมและโลชันเสมอ อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง
2.ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้รอยดำดำนิ่งขึ้น
3.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป หรือขัดถูบริเวณที่อักเสบ มากจนเกินไป - เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นอาการอักเสบ ครับ
4.ครีมบำรุง เช่น วิตามิน ซี / อาร์บูติน / กรดโคจิก (Vitamin C, Arbutin, Kojic Acid) บางท่านแนะนำว่าทีประโยชน์ครับ
5.การเลเซอร์
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อยากถามคะว่าหนูเป็นสิวตั้งแต่ ป.3-ม.2 ตอนนี้ไม่หายคะหายาหาครีมทาสิวมาทาก็ไม่หายแต่ที่หนูไม่ชอบเลยคือ "รอยสิว จุดด่างดำ"มันอยู่บริเวณแก้มคะเยอะมาก หนูควรทำยังไงให้รอยสิวกับสิวบนใบหน้าหาย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)