September 26, 2018 01:43
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตนั้น ไม่ได้เป็นอาการที่จำเพาะต่อการติดเชื้อHIVครับ แต่อาจมีสาเหตุได้จากสาเหตุอื่นอีกหลายๆอย่าง เช่น การติดเชื้อไวรัสทั่วไป ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ การติดเชื้อภายในช่องปากและทางเดินหายใจ เป็นต้น
ในกรณีที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองโตขึ้นมาในภายหลัง และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งมาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ก็แนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการซ้ำได้ครับ เพราะอาจต้องมีการพิจารณาการวินิจฉัยรวมถึงการรักษาใหม่ เนื่องจากอาการเจ็บป่วยในวันแรกๆที่ยังไม่ชัดเจนนั้นอาจทำให้มีการวินิจฉัยผิดพลาดได้
ส่วนกรณีที่กังวลเรื่องการติดเชื้อHIVนั้น ต้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อเท่านั้น ไม่สามารถวินิจฉัยจากอาการได้ครับ เพราะไม่มีอาการใดที่จำเพาะต่อการติดเชื้อHIV
ดังนั้นถ้าที่ผ่านมาเคยมีความเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อHIVได้มาก่อน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดยืนยันดูครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีคับ วันที่24/9ผมไข้ขึ้นสูงตอนตี1 มีอาการหนาวสั่น แขนขาไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตอนแรกคิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ผมได้ไปหาหมอ หมอตรวจแล้วไม่ใช่ หมอได้ให้ยามาทาน ตอนนั้นรู้สึกว่าต่อมน้ำเหลืองใต้คางจะโตขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเห็นได้ชัด พอช่วงบ่ายผมรุสึกเริ่มปวดตรงหลังบริเวณเอว ตอนเย็นก็กินยาตามหมอสั่ง มีเหงื่อออกกลางคืน 25/9อาการไข้ผมดีขึ้น แต่ผมพบว่าต่อมน้ำเหลืองเริ่มโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก้อนไม่ใหญ่ จับดูไม่รุสึกเจ็บ อยากทราบว่าจะเกี่ยวกับอาการเหล่านี้หรือไม่/ต่อมน้ำเหลืองจะมีโอกาสโตขึ้นอีกหรือไม่และจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ถึงจะหาย และเกี่ยวกับเอชไอวีหรือไม่ ขอบคุณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)