คุนหมอค่ะหนรบกวนถามคุนหมอหน่อยค่ะ หนุผ่าชีสในรังไข่ตอนวันที่17กันยาที่ผ่านมา แล้ววันที่26กันยาประจำเดือนห้าม5วันค่ะ แล้ววันที่11ตุลาคมหนูก้มีเพศสันพันธ์กับสามี แล้วก่จนถึงตอนนี้ก้ยังไม่มีประจำเดือนเลยค่ะ แต่ว่าตรวจแล้วไม่ท้องค่ะ ควรจะต้องกินยาอะไรมั้ยค่ะ หนูมีโอกาสจะท้องมั้ยค่ะหนูอายุ45ปีนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ
ก่อนอื่นหมออยากให้เริ่มจากการประเมินวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ครั้งที่ผ่านมาก่อนครับว่าสามารถตรวจอย่างถูกต้องหรือไม่

การตรวจการตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นการตรวจที่ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจครับ ถ้าหากการตรวจครั้งที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามนี้ก็จะสามารถเชื่อถือผลตรวจได้มากถึง 97-99% ครับ แต่ถ้าหากยังตรวจได้ไม่ถูกต้องก็ควรลองตรวจใหม่อีกครั้งครับ

ในกรณีที่ตรวจการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้องแล้วผลตรวจขึ้น 1 ขีด ซึ่งแปลว่าไม่มีการตั้งครรภ์ก็จะสามารถรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ

ถ้าเช่นนั้นหมอก็แนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนและถ้าครบ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายแล้วประจำเดือนยังไม่มาก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ในตอนนั้นอีกครั้งครับ

ส่วนอาการเจ็บท้องน้อยแป๊บๆนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงสาเหตุใดเป็นพิเศษครับ แาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการนำก่อนที่ประจำเดือนจะมา กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ ถ้าหากอาการปวดท้องดังกล่าวเป็นรุนแรงมากก็อาจต้องไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมครับ แต่ถ้าเจ็บไม่รุนแรงแล้วหายไปได้เองในเวลาไม่นานก็อาจรอสังเกตอาการต่อได้ครับ

ในที่นี้อาจไม่สามารถระบุโอกาสตั้งครรภ์ที่ชัดเจนได้ครับ แต่อ่จพอบอกได้อย่างคร่าวๆว่าโอกาสตั้งครรภ์อาจมีได้น้อยกว่าคนทั่วไปเนื่องจากมีอายุค่อนข้างมากแล้วและมีปัญหาเรื่องซิสต์ในรังไข่อยู่ ยังไงแนะนำให้รอตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ

ส่วนยาโอบีมินสามารถรับประทานได้ครับ

ในทางทฤษฎีนั้นถ้าหากการผ่าตัดเป็นการผ่าเอาซิสต์ออกเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้เอารังไข่ออกไปด้วย หรือยังมีรังไข่เหลืออยู่ 1 ข้างก็จะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ

แต่ทั้งนี้ด้วยอายุที่มากขึ้นการตกไข่และระดับฮอร์โมนในร่างกายก็มักจะไม่เป็นปกติเหมือนวัยหนุ่มสาว ทำให้โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้มีน้อยกว่าในช่วงอายุน้อยครับ

อาการคัดตึงเต้านมนั้นเป็นได้ทั้งจากอาการของการตั้งครรภ์และอาจเป็นอาการนำก่อนประจำเดือนมาก็ได้ครับ ในที่นี้จึงไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าอาการคัดตึงเต้านมเกิดขึ้นจากสาเหตุใด

ในตอนนี้หมอแนะนำว่ายังไม่ต้องกังวลและให้รอสังเกตประจำเดือนและตรวจการตั้งครรภ์ดูในช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ

ถ้าหากตรวจเลือดเพื่อหาฮอร์โมนการตั้งครรภ์และตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 10 วันก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้มากถึง 99% ครับ

ในกรณีนี้ถ้าคุณได้มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายประมาณวันที่ 23-24 ตุลาคม แล้วตรวจเลือดตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ผลเลือดที่ออกมาก็เป็นการบอกว่าไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ

ถ้าหากต้องการรับประทานยากระตุ้นการตกไข่หมอแนะนำให้มีการปรึกษาแพทย์สูตินรีเวชเพื่อพิจารณาความจำเป็นในการรับประทานยา และควบคุมให้การรับประทานยามีความปลอดภัยมากที่สุดครับ

ไม่แนะนำให้เริ่มรับประทานยาด้วยตนเองครับ

ปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนมาน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างครับ เช่น
- ระดับฮอร์โมนในเลือด
- อายุ
- น้ำหนักตัว
- ความเครียด
- การเจ็บป่วย
- โรคประจำตัว
ฯลฯ

ในกรณีที่ต้องการรับประทานยาปรับฮอร์โมนหมอแนะนำให้ปรึกษาสูติแพทย์ดูก่อนครับว่ามีความจำเป็นหรือไม่ และยาปรับฮอร์โมนหลายๆชนิดก็จะมีผลในการคุมกำเนิดด้วยทำให้อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการมีบุตรครับ