May 31, 2019 15:02
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การมีความเครียด หรือรู้สึกกดดันต่อเนื่อง แล้วไม่สามารถปรับตัวกับปัญหาหรือสภาวะเครียดนั้นได้ อาจส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ และอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ
อาการของซึมเศร้า ได้แก่
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิด กระสับกระส่าย
8.รู้สึกไร้ค่า ขี้น้อยใจ
9.อยากตาย/อยากทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บ
หากมีอาการเกิน 7 ข้อ ต่อเนื่องทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์ ก็อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ
สาเหตุซึมเศร้า เกิดจาก สารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ส่งผลให้การคิด การรับรู้ การแสดงออกทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม
การรักษาที่ได้ผลดี คือ การรักษาด้วยยา เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยให้ควบคุมความคิด อารมณ์และพฤติกรรมได้เหมาะสมมากขึ้น และอาจทำจิตบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ช่วยให้ปรับตัวได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างการรักษาผู้ป่วยควรดูแลตัวเองด้วยการทานยาอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น/สารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ตามที่พี่นักจิตวิทยาได้แจ้งไว้ถึงเรื่องของอาการที่เกี่ยวพันกับโรคซึมเศร้านะครับ ซึ่งความเครียดมักจะเข้ามาส่งผลในเรื่องของจิตใจ และทำให้ไวกับเรื่องของความคำพูด ทำให้เรารู้สึกไปมากๆได้อยู่แล้ว แต่การจะดูว่ามีภาวะโรคซึมเศร้าหรือไม่นั่น ส่วนมากจะดูจากอาการตามด้านบนเป็นหลักครับ ถ้าหากว่ามีความเศร้ามากจริงๆ จนส่งผลกระทบกับการเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็อยากจะแนะนำให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและหาแนวทางการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปครับ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดในตัวคุณลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ และหากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ อยากทราบว่าอาการที่บอกไปจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไมเกรนรึป่าวคะ เวลาเครียดมากๆก็จะปวดหัว พอรู้สึกได้รับแรงกดดันก็จะร้องไห้จนปวดหัว หรืออะไรที่ทำให้เสียความรู้สึกก็จะร้องไห้จนปวดหัว อะไรที่ทำให้ความรู้สึกอ่อนไหวก็จะน้องไห้ออกมาง่ายมากทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่ได้เป็นค่ะ อยากทราบว่าแบบนี้มันเป็นโรคที่บอกมั้ย หรือมันเป็นเพราะตัวของเราเองคะ ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)