February 21, 2019 19:06
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่อารมณ์มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ เปลี่ยนจากคนร่าเริงเป็นคนเงียบ ทำอะไรช้าลง เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ และมีความคิดอยากตายนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำว่าในเบื้องต้นนั้นควรหาโอกาสไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เมื่อทราบสาเหตุของอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่ชัดแล้วก็จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
น่าจะเป็นอาการของภาวะซึมเศร้าครับ
เบื้องต้นแนะนำให้ หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้ครับ
โดยให้ที่สุดดีน่าจะไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทางด้านจิตใจ(จิตแพทย์)โดยเฉพาะครับ เพราะคุณหมอจะชำนาญในการรักษาและให้ยา อีกทั้งจะได้ให้คำแนะนำและติดตามอาการครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นเลยอาจจะต้องขอถามนะครับว่าในช่วงมัธยมต้น หรือมัธยมปลายได้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าที่ทำให้หนูมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นมา หรือว่าอาการเหล่านี้หรือความคิดความรู้สึกของหนูเริ่มเป็นแบบนี้จากอะไร หรือว่าเป็นได้ยังไงนะครับ เพราะจากที่เล่ามานี้ อาการหลายๆอย่างมันเหมือนกับคนที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีคนเป็นที่พึ่ง และตอนนี้หนูกำลังอาศัยอยู่กับตัวเองไม่ได้รู้สึกว่าจะติดต่อกับบุคคลอื่นๆรอบข้างเท่าไหร่นัก ในหลายๆอาการที่เล่ามาก็อาจจะตรงกับเรื่องของภาวะของโรคซึมเศร้าด้วย แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้น่าจะเป็นผลมาจากเหตุการณ์ในอดีตด้วยที่หนูได้เจอมาซึ่งผมเองก็ไม่อาจจะทราบได้ว่ามันคืออะไร แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้หากหนูรู้สึกคิดว่าต้องการความช่วยเหลือ ผมอยากแนะนำว่าการเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเองก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจะเหมาะสมสำหรับสถานการณ์ของหนูในตอนนี้นะครับ
ในเบื้องต้นการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญนั้นในบางทีไม่จำเป็นที่จะต้องให้ผู้ปกครองไปด้วยถึงแม้ว่าอายุจะไม่ถึง 18 ปีก็ตาม แต่หากให้แนะนำ หากเป็นไปได้การดึงคนในครอบครัวเข้ามาทำความเข้าใจและร่วมเผชิญหน้าไปกับสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวหนูนะครับ แต่ถ้ายังไม่พร้อมก็สามารถไปพบกับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพียงคนเดียวได้ครับ
นอกจากการเข้ารับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาการช่วยเหลือที่เหมาะสม การปฏิบัติตัวของคุณเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอพบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ โดยผมอยากแนะนำให้เริ่มจากการหันกลับมาดูแลตนเองครับ ลองแบ่งเวลาให้ตนเองได้มีช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ได้ทำในสิ่งที่ชอบ อาจจะเสริมในเรื่องของการออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายบ้าง เพื่อลดความวิตกกังวลและช่วยปรับอารมณ์เศร้าของคุณให้ขึ้นมาครับ ซึ่งการทำกิจกรรมเหล่านี้อาจจะไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่มันจะมีประโยชน์ในระยะยาวหากคุณสามารถทำสิ้งเหล่านี้ให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันได้ครับ
ส่วนสุดท้ายนี้ผมขอพูดฝากไว้ในเรื่องของความคิดฆ่าตัวตายนะครับ โดยหากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือว่ามีแนวโน้มที่เราจะทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือติดต่อไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ 24 ชม. เพื่อที่คุณจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมในด้านการช่วยเหลือเชิงจิตใจในเบื้องต้น หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือในกรณีฉุกเฉิน อยากให้ติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าถึงคุณได้และสามารถนำคุณไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อช่วยคุณจากการพยายามฆ่าตัวตายได้นะครับ
สำหรับตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปให้ได้นะครับ ถ้าหากมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
หากมีอาการต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ
ในกรณีนี้พี่แนะนำให้หนูพบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด (โดยเฉพาะอาการที่พูดคนเดียว หนูต้องอธิบายให้ชัดเจน คุณหมอจะวินิจฉัยแยกโรคให้แน่ชัดว่ามันเกิดจากการที่หนูได้ยินเสียงแว่วหรือมีประสาทหลอนทางหูหรือไม่) แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ค่ะ
ในระหว่างรักษา แนะนำให้หนูทานยาตามคำสั่งแพทย์ ไม่ปรับยาหรือหยุดยาเอง ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง หมั่นออกกำลังกาย หากิจกรรมที่ชอบเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูเคยเป็นคนที่ร่างเริง พูดเยอะ แต่พอขึ้นมัธยมต้นหนูก็เริ่ม ตอนนี้หนูชั้นมัธยมปลายแล้ว ความเงียบก็ชัดเจนมากขึ้น ความเงียบได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของหนูแล้ว หนูไม่พูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่หนูชอบพูดคนเดียวกับตัวเอง อารมณ์ก็แปรปรวน เดี้ยวก็ดี เดี้ยวก็โมโห การเรียนก็แย่ ขาดการคิดวิเคราะห์ คิดอะไรก็ช้า ทำอะไรก็ช้า ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นเร็ว นอนก็หลับยาก หรือถ้าหลับแล้วก็จะหลับลึกเลย ไม่ก็นอนไม่หลับเลย บางวันก็ทานอาหารมาก บางวันก็ทานอาหารน้อย และที่สำคัญหนูชอบที่จะคิดว่า ถ้าหนูตายไปก็คงจะดี นี้คืออาการบางส่วนที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)