June 08, 2018 18:46
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
อาการแบบนี้เป็นได้หลายอย่างค่ะ ที่พบบ่อยสุดคือ โรคกรดไหลย้อน ซึ่งจากอาการของคนไข้ คิดถึงภาวะนี้ได้บ่อยที่สุดค่ะ อาการร่วมด้วยที่อาจจะเป็นเช่น ปวดท้อง อาจจะแน่นท้องใต้ลิ้นปี่ หรือ แสบร้อนใต้ลิ้นปี่ เรอบ่อย บางคนเรอแล้วเหมือนมีอาการของอาหารไหลขึ้นมาด้วยรองลงมาคือ นิ่วในถุงน้ำดีหรือทางเดินน้ำดี ซึ่งอาการของนิ่วนี้ จะมี เช่น ปวดท้องเป็นๆหายๆ อิ่มเร็ว มักปวดท้องเวลาทานอาหารเสร็จค่ะ
อาการที่ค้องระวังหากมีควรไปพบแพทย์ เช่น อาเจียนเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลืองตาเหลือง กินข้าวอิ่มเร็วกว่าปกติหรือคลื่นไส้อาเจียนมากๆค่ะ ถ้าไม่มีอาการเหล่านี้ ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ
การรักษาโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน ประกอบไปด้วยสองอย่างคือ
1.การปรับการใช้ชัวิตประจำวัน
2.การใช้ยา
การปรับชีวิตประจำวัน ควรปรับเรื่อง อาหาร และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการกินค่ะ
-อาหาร ควรเป็นอาหารที่ไม่รสจัด ไม่มัน ไม่หวานจัดเผ็ดจัดเค็มจัด
-ลดของหวานของมัน
-รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
-หลังกินควรยกหัวสูง คือไม่นอนทันทีค่ะ อย่างน้อย 1-3 ชม
-หากมียาที่มีผลข้างเคียงที่รับประทานเป็นประจำ ทำให้ปวดท้อง เช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน ควรปรึกษาแพทย์
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุ อาจจะเป็นโรคกระเพาะไม่มีสาเหตุ การติดเชื้อเรื้อรังในกระเพาะอาหาร ก้อน นิ่ว เป็นต้น หลังจากตรวจ อาจจะได้นามารับประทาน ให้รับประทานต่อเนื่อง ร่วมกับการปรับชีวิตประจำวันค่ะและไปตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอค่ะ
2.การใช้ยา โดยทั่วไป ยาสามัญประจำบ้านที่คนไข้สามารถซื้อเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยา alum milk , ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียน , simeticone เป็นต้นค่ะ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศุภลักษณ์ แซ่จัง (พว.)
อาการหนูกล่าวมา เป็นทุกวันไหมคะ เบื้องต้นจากอาการที่เล่ามา คาดว่าอาจเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งอาการมักเป็นๆ หายๆ หากไม่ปรับพฤติกรรม และรับประทานยาลดกรด ให้ครบ 6 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหาย คนส่วนใหญ่พอทานยา แล้วอาการทุเลาลง มักจะหยุดยาทานเอง ซึ่งแผลในกระเพาะอาจยังไม่หายสนิท ทำให้เกิดอาการปวดท้องได้อีก ในกรณีที่รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่เป็นกรดมากเกินไป หนูลองสังเกตว่าตนเองมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ แต่ถ้าหาก มีอาการถ่ายดำหรือถ่ายมีเลือดปนร่วมด้วย น้ำหนักลด ปวดรุนแรงนานเป็นชั่วโมง หรืออาเจียนมีเลือดปน แนะนำไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถึงไม่มีอาการที่รุนแรงดังที่กล่าวมา แนะนำให้ไปพบแพทย์ตรวจเพิ่มเติม เนื่องจากอาการปวดท้อง สามารถเกิดได้หลายสาเหตุ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคือหนูอายุ17ค่ะ มีอาการแสบท้องหรือท้องร้องเวลาไม่ได้ทานข้าวหรือหิวข้าวอะค่ะ เวลาท้องว่างก็จะรู้สึกแสบๆท้องอะค่ะเป็นอะไรหรอคะตอนนี้กลัวโรคมะเร็งกะเพาะอาหารมากค่ะเข้าไปอ่านในเว็บต่างๆมาเลยกลัวค่ะ เคยทานยาโบวาเยลอะค่ะยาลดกรดเคลือแผลไรอะค่ะหนุทานไปก็ยังมีอาการแสบท้องอยู่นะคะหนูทานแค่ขวดเดียวค่ะได้ทานได้5วัน แบบนี้เป็นโรคอะไรคะเพราะก่อนที่จะมาแสบท้องอะค่ะ หนูมีอาการปวดแสบท้องมากเหมือนมีลมในท้้้้้้้องอะค่ะเรอผายลมตลอดก็ดีขึ้นหลังจากวันนั้นมาก้มีอาการอย่างที่บอกไปอะค่ะมีเรอบ้างค่ะแต่ไม่แน่นท้องค่ัะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)