June 30, 2018 22:10
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
- การทำหมันหญิง ถือเป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร โดยจะเป็นการทำให้ท่อนำไข่ (Fallopian Tube) อุดตัน โดยการใช้ไฟฟ้าจี้ , ผูกและตัด , ใช้คลิปหนีบ , หรือใช้วงแหวนพลาสติก รัดทางเดินของท่อนำไข่ หรือที่เรียกกันว่าปีกมดลูกทั้งสองข้าง ไข่ที่ตกจากรังไข่เดือนละ 1 ใบ จะไม่สามารถเข้ามาผสมกับตัวอสุจิจากฝ่ายชายได้ ค่ะ
- โดยหากคู่สมรส มีความต้องการที่จะมีบุตรอีกครั้งหลังทำหมันไปแล้ว จะต้องทำการประเมินสุขภาพร่างกาย และโอกาสการตั้งครรภ์ของทั้งาองคนนะคะ
ได้แก่
1.ความบูรณ์ของฝ่ายชาย ได้แก่ สุขภาพร่างกายโดยทั่วไป น้ำเชื้อของฝ่ายชาย คุณภาพน้ำเชื้อของฝ่ายชาย เป็นต้นค่ะ เนื่องจาก หากพบว่าฝ่ายชายเป็นหมัน การแก้หมันไป ก้จะไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้อยู่ดีค่ะ
2.ความสมบูรณ์ของฝ่ายหญิง ได้แก่ สุขภาพโดยทั่วไป เช่น โรคประจำตัวต่างๆ ที่อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เลือดจาง ตับ ไต เป็นต้น และอายุ (เนื่องจาก อายุมากกว่า 40 ปี โอกาสจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ก้อาจไม่มากอยู่แล้ว และอาจมีผบแทรกซ้อนจากการตั้งครรภฺมากค่ะ) ระยะเวลาของการทำหมัน หากทำมานาน โอกาสการตั้งครรภ์จะลดลงค่ะ. นอกจากนี้ จะต้องตรวจอวัยวะอื่นๆทางระบบสืบพันธ์ เช่น มดลูก รังไข่ ค่ะ และ ตรวจหมันเดิมที่ทำไว้ค่ะ ได้แก่ การส่องกล้องทางหน้าท้อง การฉีดสีดูท่อนำไข่ ทั้งลักษณะภายนอก และการดูจากกล้องจุลทรรศน์ค่ะ หากการทำหมันเดิมของผู้หญิง ไม่ไม่มีการทำลายท่อนำไข่มาก ไม่ค่อยมีผังผืด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่า กลุ่มที่ตัดท่อนำไข่และมีการทำลายท่อนำไข่มากๆด้วยค่ะ
**โดยปกติ โอกาสตั้งครรภ์ของสตรีที่ต่อหมัน จะมีประมาณ 15-70 เปอร์เซนต์ค่ะ
-การแก้หมันหญิง ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะค่ะ
**ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้นำประวัติเก่าที่ทำหมันที่ รพ เดิมมาด้วยนะคะ จะเป็นประโยชน์กับคุณหมอมากๆค่ะ
-งบประมาณการต่อหมัน ถ้าเป็นที่ รพ รัฐบาล จะประมาณ 1-3 หมื่นบาท และถเา รพ เอกชน จะประมาณ 8หมื่นถึง 1 แสนบาทขึ้นไปค่ะ (คนไข้ลองติดต่อ รพ อีกทีนะคะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ค่าผ่าตัดแก้หมันเท่าที่ทราบอยู่ในหลักหลายหมื่น เเล้วเเต่โรงพยาบาลครับ กรณีโรงพยาบาลรัฐ การผ่าตัดแก้หมันไม่รวมอยู่ในสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า จึงมีค่าใช้จ่ายเช่นกันครับเเต่จะน้อยกว่าโรงพยาบาลเอกชนครับ
เเละถึงเเม้จะผ่าตัดเเก้หมันเเล้ว โอกาสกลับมาตั้งครรภ์ก็ไม่ได้เเน่นอนครับ
การต่อหมันจะมีอัตราความสำเร็จ (หมายถึงหลังต่อแล้ว ท่อนำไข่ใช้งานได้ดี ทดสอบโดยการฉีดสีดูท่อนำไข่ หลังจากผ่าตัดแก้หมันไปแล้ว 2-3 เดือน) หรือปัจจัยอื่นๆเช่น อายุมารดา สุขภาพมารดา คุณภาพของน้ำเชื้อฝ่ายชาย เป็นต้นครับ
เบื้องต้นเเนะนำให้โทรสอบถามรพ.ที่คนไข้ต้องการจะผ่าตัดแก้หมัน ก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
ในทางการแพทย์ถือว่าการทำหมันเป็นการคุมกำเนิดถาวรที่ได้รับความนิยมที่สุด โดยการคีบท่อมดลูกหรือท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างมาผูกแล้วตัด ซึ่งร้อยละ23ของผู้หญิงที่อายุระหว่าง 15-44ปี มักคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้และพบว่าร้อยละ 5-10ของผู้หญิงที่ทำหมัน มักเกิดความเสียใจและไม่พอใจ อยากแก้หมันในภายหลัง ซึ่งในปัจจุบันการต่อหมันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคการต่อหมันด้วยกล้องจุลทรรศน์ แต่ก่อนที่จะเริ่มการต่อหมันนั้นจะต้องมีการตรวจร่างกายทั้งสามีและภรรยา เพื่อดูความพร้อมของร่างกายว่าสมบูรณ์แข็งแรงเพียงใด โดยเฉพาะในฝ่ายหญิงจะต้องใช้การส่องกล้องทางช่องท้อง โดยเจาะเพียง 2 รูเข้าไปดูสภาพของท่อนำไข่จากนั้นอาจทำการต่อหมันทันทีหรือนัดหมายภายหลัง โดยวิธีการนั้นจะมีการวางยาสลบหรือใช้ยาชาฉีดเข้าไขสันหลังก่อนทำการต่อหมัน เนื่องจากท่อนำไข่มีขนาดเล็กมากจึงใช้วิธีการต่อหมันด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยการตัดต่อท่อนำไข่ทีละข้าง แล้วเย็บต่อท่อเข้าหากัน จากนั้นทำการฉีดสีเข้าไปที่มดลูก เพื่อตรวจสอบว่าสีสามารถเดินทางไปยังท่อนำไข่ที่ต่อแล้วได้ดีเพียงใด จึงต่ออีกข้างและทำการทดสอบเช่นกัน ก่อนจะเย็บปิดแผลเป็นขั้นตอนสุดท้าย การต่อหมันด้วยวิธีนี้มีความแม่นยำสูงและอัตราการตั้งครรภ์ก็สูงกว่าวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม อาจใช้การส่องกล้องทางช่องท้องช่วยในการต่อหมันอีกวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย แต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการต่อหมันด้วยกล้องจุลทรรศน์
ซึ่งทั้ง2วิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000-50,000 บาทต่อราย แต่จะตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าโดยธรรมชาตินั้น สิ่งที่ตัดไปแล้วทำให้กลับคืนมาอีกครั้ง ต้องยอมรับว่าอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ เพราะโอกาสตั้งครรภ์ของผู้หญิงที่ต่อหมันมีตั้งแต่ร้อยละ 15-90 จะเห็นว่าตัวเลขห่างกันมาก ทั้งนี้จะตั้งครรภ์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน
1.อายุของผู้หญิงที่ต่อหมัน หากอายุเกิน 40 ปี โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยกว่า
2.การเจริญพันธุ์ของฝ่ายหญิง หากรังไข่ไม่ทำงาน มดลูกไม่ปกติ มีเนื้องอกมดลูก ฯลฯ ต่อหมันไปแล้วก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่า
3.การเจริญพันธุ์ของฝ่ายชาย หากฝ่ายชายน้ำเชื้ออ่อน โอกาสตั้งครรภ์ก็น้อยกว่า จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจฝ่ายสามีด้วย
4.ระยะเวลาการแก้หมัน ยิ่งทำหมันมานานเท่าไหร่ โอกาสท้องก็น้อยลง เช่น แก้หมันหลังทำหมันภายใน 5 ปี โอกาสตั้งครรภ์ ร้อยละ 74 ถ้าแก้หมันหลังทำหมันภายใน 6 – 10 ปี โอกาสตั้งครรภ์เหลือเพียงร้อยละ 63
5.ทำหมัน ด้วยวิธีไหน หากใช้กล้องส่องยิง แล้วใช้แถบหนังยางหรือคลิปรัดท่อมดลูก มักไม่
เสียหายมากนักเมื่อแก้หมันแล้ว โอกาสตั้งครรภ์จะสูงกว่า แต่หากตัดท่อออกไปมาก หรือตัด
ส่วนปลายที่รับไข่ หรือใช้ไฟฟ้าจี้ทำลายท่อมดลูกเป็นวงกว้าง เมื่อแก้หมันแล้ว โอกาสตั้งครรภ์
จะน้อยกว่า
6.ความชำนาญของสูตินรีแพทย์และเครื่องมือแพทย์
7.ความสมบูรณ์ของท่อหลังการต่อหมัน ในกรณีที่มีการอักเสบของปีกมดลูกบ่อย ๆ ท่อนำไข่ไม่สมบูรณ์แม้ต่อหมันแล้ว โอกาสตั้งครรภ์ก็น้อยกว่าท่อที่สมบูรณ์
8.สุขภาพทั่วไปของผู้ต่อหมัน หากสุขภาพไม่ดี มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หอบหืด ภูมิแพ้ โอกาสตั้งครรภ์หลังต่อหมันจะต่ำกว่าผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
ราคาการแก้หมันอยู่ที่30000-50000บาทต่อรายค่ะ โดยทำเฉพาะในที่ที่มีสูตินรีแพทย์เท่านั้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แก้หมันราคาเท่าไหร่คะทำมา6ปีแล้วคะอายุ32คะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)