มันปกติมั้ย? ถ้ารู้สึกอยากอยู่นิ่งๆ ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากไปไหน อยากอยู่เฉยๆ คนเดียวแบบจริงๆ เราพยายามทำอะไรก็ได้ที่คิดว่าตัวเองน่าจะดีดได้มากกว่านี้ ก็ไม่เป็นผล เพลงที่เคยชอบก็รู้สึกเฉยๆ ทั้งที่เคยชอบมาก พอกลางคืนอยากนอน ก็นอนไม่หลับ เลยอาจจะทำให้รู้สึกแย่สุดๆ รู้สึกอะไรๆ มันก็น่าเบื่อไปหมด ไม่อยากทำอะไรเลย รร.ก็ไม่มีความรู้สึกอยากไป งานจะส่ง พน. ก็ไม่ยอมทำ ในใจก็สงสัยว่าทำไมไม่ทำ แต่สุดท้ายเราก็นั่งนิ่งๆ ต่อไปอยู่ดี รู้สึกแย่มากที่เป็นแบบนี้ คิดแล้วถ้าบอกใคร ก็คงไม่มีใครเข้าใจ เราควรทำไงดี

สวัสดีครับ
การที่รู้สึกเบื่อสิ่งที่เคยชอบทำ รู้สึกพลังงานในตัวหายไป ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากเจอใครจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตและเป็นอย่างต่อเนื่องนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เมื่อทราบสาเหตุแล้วจะได้ให้การรักษาและช่วยเหลือให้ความรู้สึกไม่อยากทำอะไรกลับมาดีขึ้นครับ

สวัสดีครับ

อาการไม่อยากทำอะไรนี้เกิดขึ้นมานานแล้วหรือยังครับ และโดยปกติแล้วตัวเรามีอาการแบบนี้บ่อยหรือเปล่าครับ ในช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้นที่โรงเรียน หรือที่บ้านหรือเปล่าที่ทำให้เรารู้สึกว่าโรงเรียนน่าเบื่อ และไม่มีแรงจูงใจในการทำการบ้านหรือไปเรียนนะครับ

อาการเหล่านี้จะถามว่าเกิดขึ้นได้ไหม ก็สามารถเกิดขึ้นได้ครับ สาเหตุนั่นจะค่อนข้างหลากหลาย แต่โดยส่วนมากแล้วก็อาจจะหมายความว่าตอนนี้ตัวเรากำลังมีเรื่องทุกข์ใจ เครียด หรือมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราหมดความสนใจในหลายๆอย่างที่เราเคยให้ความสำคัญ และให้ความสนใจ ถ้าลองดูตามคอมเม้นท์ของคุณหมอด้านบนและพบว่ามีหลายๆ อาการที่ตรงกับที่คุณหมอว่า และทำแบบประเมินได้คะแนนสูง ก็มีความเป็นไปได้นะครับว่าตอนนี้ตัวน้องจะอยู่ในภาวะซึมเศร้า ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะต้องแนะนำว่าควรที่จะพบจิตแพทย์เพื่อรับการประเมินและวินิจฉัย เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ การไปหาจิตแพทย์นั้นก็สามารถบอกให้ที่บ้านรับทราบหรือให้เขาพาไปได้ แต่หากว่าคิดว่าไม่อยากจะบอกทางบ้านจริงๆ ก็สามารถเข้ารับบริการจากจิตแพทย์ได้ด้วยตนเองนะครับ

แต่หากความรู้สึกตรงนี้เพิ่งเกิดมาไม่กี่วัน ผมอยากแนะนำว่าให้ลองฝืนลำดับสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องทำ และสิ่งที่เราอยากทำดูครับ ลองแบ่งเวลาช่วงหนึ่งของวัน ไปหากิจกรรมที่ทำให้เราผ่อนคลาย การฟังเพลงเดิมๆแล้วเรารู้สึกว่ามันไม่น่าสนใจเหมือนเดิมแล้ว ตัวน้องอาจจะลองหาเพลงใหม่ๆ ที่เป็นแนวเพลงแบบที่เราชอบมาฟังได้ ลองออกไปทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนนอกบ้านในทางที่สร้างสรรค์ เช่นการเล่นกีฬา หรืออาจจะลองไปทำการบ้านกับเพื่อนดูก็ได้นะครับ หากทำอย่างนี้ไปแล้วไม่พบความเปลี่ยนแปลงและรู้สึกว่าความรู้สึกมันยังเหมือนเดิมหรือแย่ลง ก็อยากจะแนะนำให้ลองเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ดูนะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ

อาการเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขกับสิ่งต่างๆที่เคยชอบ อาจเป็นอาการหนึ่งของภาวะซึมเศร้าก็เป็นได้ค่ะ โรคซึมเศร้าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกวัย โดยมีสาเหตุมาจากการหลั่งสารเคมีในสมองผิดปกติส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมที่แสดงออก
เบื้องต้นทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ