ถ้าโดนแมวที่ไม่รู้จักข่วนเป็นแผลตามรูป แต่พึ่งฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มกระตุ้น 1 เข็ม เมื่อ 6 วันที่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็ฉีดกระตุ้น 1 เข็ม เมื่อวันที่ 29 มีนา ต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าอีกมั้ยคะ

ถ้าเพิ่งฉีดกระตุ้นไปหกวันก่อน ต่อให้โดนเเมวที่มีเขื้อข่วนจริง ก็ยังไม่ต้องไปฉีดกระตุ้นครับ เพราะปกติภูมิจะค่อยๆขึ้น จากภูมิเดิมที่มีอยู่เเล้วด้วยครับ
เเต่ก็เเนะนำให้ล้างน้ำ ล้างสบู่ รักษาความสะอาด ซับให้เเห้งตามปกติครับ

สวัสดีครับ
ถ้าหากโดนแมวข่วนเป็นแผลตามรูปก็ควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเพิ่ม 1 เข็ม เนื่องจากในกยังฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายมาไม่เกิน 6 เดือนครับ

ขอเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อป้องกันการสับสนนะครับ

ตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าของสถานเสาวภาสภากาชาดไทยพ.ศ.2561 ยังแนะนำว่าทุกครั้งที่ถูกสัตว์กัด ข่วนจะยังต้องไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าทุกครั้งโดยไม่มีข้อกำหนดว่าระยะเวลาเท่าไหร่หลังฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายแล้วไม่จำเป็นต้องไปฉีดวัคซีนอีกครับ

โดยในกรณีที่ยังไม่เกิน 6 เดือนหลังฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายก็จะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้น 1 เจ็มเสมอ ดังนั้นในกรณีนี้จึงควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนครับ

- กรณีคนไข้ ถ้าเคยฉีดมาบ่อยๆ ก็คือมีภูมิคุ้มกันอยู่เเล้วครับ การฉีดบ่อยๆ ยังไม่พบว่าผลข้างเคียงรุนเเรงใดๆนะครับ
- ถ้าตามเกณฑ์ของWHO คือถ้าไม่เกิน3เดือนหลังฉีด ไม่ต้องไปฉีดซ้ำครับ เเต่ถ้าตามเกณฑ์สภากาชาดไทย ก็ฉีดหมด ถ้าไม่เกิน6เดือนก็กระตุ้น1เข็มครับ ถ้าเกิน6เดือนกระตุ้น2เข็ม
- ถ้าคนไข้ กังวล เเละ เเมวที่มาข่วนเป็นเเมวจรจัด ก็ไปฉีดได้ครับ
เเต่ถ้าเเมวที่ข่วนฉีดยาครบ เลี้ยงในที่ปิด โอกาสรับเชื้อมาน้อย เเละที่โดนข่วน/กัดมีเหตุการณ์ชักนำ เช่น ไปแหย่สัตว์ ไปห้ามตอนสัตว์ทะเลาะกัน
อาจไม่ต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติมก็ได้ครับ เเต่ให้สังเกตสัตว์ไปสิบวัน ถ้าสัตว์ปกติดีก็เเสดงว่าสัตว์ตัวนั้นไม่มีเชื้อพิษสุนัขบ้าครับ
- สรุปคือ กรณีคนไข้ หมอว่าไม่ต้องกังวลว่าจะติดเชื้อพิษสุนัขบ้า จนอันตรายถึงชีวิตใดๆ ถ้าสะดวกจะไปฉีด ก็ควรฉีดกระตุ้นอีกได้ครับ
เเต่ถ้าประเมินเเล้ว เเมวความเสี่ยงมีเชื้อต่ำ หรือไม่สะดวกที่จะไปฉีด ถ้าจะยังไม่ไปก็ยังได้อยู่ครับ (ช่วงนี้ ด้วยสถานการณ์Covid เเละ คนไข้ฉีดเพิ่งกระตุ้นมา6วันก่อนครับ)

ขอเพิ่มเติมนะครับคำแนะนำในการสังเกตอาการสัตว์จะแนะนำให้ทำเมื่อสัตว์มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าต่ำเท่านั้น ซึ่งก็ต้องมีคุณสมบัติครบทุกช้อดังนี้ครับ
1. สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามาแล้วอย่างน้อย 2 ปีติดต่อกัน และครั้งสุดท้ายจะต้องยังไม่เกิน 1 ปี
2. สัตว์ต้องถูกเลี้ยงในระบบปิด
3. สัตว์กัดข่วนอย่างมีเหตุผล

เนื่องจากตัวผู้ถามได้แจ้งข้อมูลว่าถูกแมวที่ไม่รู้จักข่วน หรือก็คือไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีนของแมวที่ชัดเจน แมวตัวดังกล่าวจึงไม่อยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และทำให้ไม่แนะนำให้รอสังเกตอาการแมว 10 วันครับ

ส่วนคำแนะนำของ WHO ที่แนะนำว่าถ้ายังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครั้งสุดท้ายยังไม่เกิน 3 เดือนแล้วไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเป็นคำแนะนำที่ถูกต้องครับ

ส่วนที่ต้องขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมคือคำแนะนำของสถานเสาวภาสภากาชาดไทยพ.ศ.2561 ซึ่งออกมาหลังจากมีการประกาศคำแนะนำของ WHO ออกแล้วนั้นให้เหตุผลว่าที่ยังให้คำแนะนำให้ฉีดวัคซีนเสมอไม่ว่าจะฉีดวัคซีนครั้งสุดท้ายมานานแค่ไหน เป็นเพราะว่ามีการศึกษาที่พบว่าในช่วง 3 เดือนแรกหลังฉีดวัคซีนจะยังมีผู้ป่วยหลุ่มหนึ่งที่มีระดับภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าทำให้การละเว้นการฉีดวัคซีนในพื้นที่ที่ยังมีการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ เช่น ประเทศไทย จะถือเป็นกรณีที่สุ่มเสี่ยงมาก ด้วยเหตุนี้ทางสถานเสาวภาสภากาชาดไทยจึงยังแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ากระตุ้น “ทุกครั้ง” ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อครับ