คนใกล้ชิดที่สนิทกันเขาเป็น ptsd ค่ะ เขามักพูดเหมือนกับไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว เขายังเครียดกับเหตุการณ์บางอย่างอยู่ เราจะช่วยเขายังไงได้บ้างคะ ปัจจุบันก็รักษาอยู่ ด้วยวิธีทานยาค่ะ

สวัสดีครับ
ผู้ป่วยที่เป็นโรค PTSD นั้นจะมีความหวาดกลัวต่อสิ่งต่างๆที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต รวมถึงจะมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆได้มากกว่าคนทั่วไป ทำให้มีผลกระทบต่ออารมณ์และสภาพจิตใจตามมา รวมถึงยังอาจสัมพันธ์กับการเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วยครับ

ในกรณีที่ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาอยู่แล้วก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ โดยในส่วนของคนที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยนั้นหมอก็แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ครับ
- คอยอยู่เคียงข้างกับผู้ป่วย รับฟังเขาด้วยความเข้าใจ
- คอยให้กำลังใจกับผู้ป่วย
- สร้างความปลอดภัยให้กับผู้ป่วยและแสดงให้เขาเห็นว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยจริง โดยที่จะไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตเกิดขึ้นซ้ำ
- ให้ผู้ป่วยได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติให้ได้มากที่สุด
- ถ้าหากสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยมีอารมเศร้ามากขึ้น มีความคิดอยากตายมากขึ้น ก็แนะนำให้กละบไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อนถึงวันนัดครับ

สวัสดีครับ

ขอเพิ่มเติมจากคุณหมอนะครับว่า ถ้าหากคุณเป็นคนกใกล้ชิด การรับฟังตัวเขาเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นลำดับแรกเลยครับ การรับฟังนี้จะช่วยให้คนสนิทของคุณได้รับรู้ว่ามีคนฟังเขา และสิ่งเหล่านี้จะเพิ่มพลังให้เขาต่อสู้กับโรค PTSD และการใช้ชีวิตประจำวันที่อาจจะแยกลำบากขึ้น

อย่างไรก็ตามการรับการรักษาอยู่แล้วก็เป็นสิ่งที่ดีครับ คุณอาจจะช่วยในการเตือนไม่ให้เขาลืมทานยา หรือการชวนคุยหรือหากิจกรรมอื่นให้เขาได้ลองทำเพื่อปรับอารมณ์และสร้างความทรงจำที่ดีเพื่อต่อสู้กับโรค PTSD ครับ

นอกจากนั้นแล้วในปัจจุบัน มีเทคนิคในการบำบัดผู้ที่เป็นโรค PTSD ด้วยวิธีการที่เรียกว่า Eye movement desensitization and reprocessing (EMDR) ซึ่งการบำบัดด้วยวิธีการนี้จะเข้าไปสร้างเสริมความทรงจำดีๆ และเรียนรู้ที่จะแยกอารมณ์ออกจากภาพความทรงจำที่เลวร้ายครับ ซึ่งตรงนี้ก็สามารถเป็นตัวเลืกหนึ่งให้คนสนิทของคุณได้ลองเข้ารับการรักษาเผื่อว่าอาการจะดีขึ้นนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้คุณและเพื่อนสนิทของคุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปนะครับ

ในกรณีที่รับการรักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบจิตแพทย์ก่อนนัด ให้คุณหมอประเมินอาการ ปรับแผนการรักษา ปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสม และคนรอบข้างต้องเข้าใจและให้กำลังใจผู้ป่วย กระตุ้นให้ผู้ป่วยคิดบวก มองสิ่งดีๆที่มีอยู่ในชีวิตเขา เตือนให้ผู้ป่วยได้ทานยาอย่างสม่ำเสมอ ออกกำลังกาย หรือชวนทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายความตึงเครียด ทั้งนี้การให้กำลังใจผู้ป่วยควรตั้งอยู่บนหลักของความเป็นจริงด้วยนะคะ