September 27, 2018 07:51
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการต่อมน้ำเหลืองโต มีสาเหตุได้ดังนี้ค่ะ
1.การอักเสบติดเชื้อของต่อมน้ำเหลือง อาจมีอาการกดเจ็บ บางคนอาจมีไข้ได้ กรณีนี้ พบได้บ่อยที่สุด
2.การติดเชื้อที่อื่นที่ส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณนั้นโต เช่น ฟันผุ หูอักเสบ ต่อมน้ำลายอักเสบ คอติดเชื้อ เป็นต้นค่ะ **การติดเชื้อบริเวณใบหน้าและลำคอ สามารถส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองโตได้หมดค่ะ โดยคนไข้อาจไม่มีอาการอย่างอื่นเลยก็ได้ เื่องจากโดยทั่วไป หากสุขภาพแข็งแรง เมื่อกำจัดเชื้อนัั้นๆไปได้ ต้อมน้ำเหลืองก็จะยุบเองค่ะ
3.เนื้องอก อันนี้อย่าเพิงกังวลไปนะคะ เนื่องจากอาจมีทั้งเนื้องอกเนื้อดี และเนื้อร้าย และอาการทักเป็นเรื้อรัง เนื้องอกเนื้อดี พบบ่อยที่สุด ค่ะ เช่น อาจจะไม่ใช่ก้อนของต่อมน้ำเหลืองก็ได้ เป็นก้อนของไขมันก็ได้ ซึ่ง ก้อนไขมัน มีลักษณะหยุ่นๆ เคลื่อนไหวได้ ไม่เจ็บ ไม่โต ก็เป็นก้อนมี่ไม่อันตรายค่ะหรือก้อนของต่อมน้ำเหลือง แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย วิธีพิสูจน์คือ การทำภาพเอกเรย์ เช่น อัลตราซาวน์ ซีทีสแกน หรือ ต้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจค่ะ หรือ ตรวจลือด หรือ อาศัยการตรวจติดตามโดยการตรวจร่างกายโดยแพทย์ ต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอนนี้คุณหมอที่เป็นหมอเฉพาะทาง หู ตา คอ จมูก บอกว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ รักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือ ตรวจโดยรอบแล้วไม่พบจุดอื่นที่เป็นแผลหรือเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อ คิดว่าเป็นเพราะหวัด เพราะก่อนหน้าที่จะมาหาหมอเพราะอาการบวม น้องมีน้ำมูกอยู่ก่อนแล้วประมาณ 3-4 วัน
หมอเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อใหม่แล้ว เพราะอาการไข้ยังไม่ดีขึ้น และยังบวมอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าวิธีรักษาต้องสุ่มฆ่าเชื้อแบบนี้เรื่อยๆเหรอค่ะ ถามคุณหมอแล้วคุณหมอบอกว่าเบื้องต้นทำได้แค่นี้
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
การรักษา ไม่ได้เกิดจากการสุ่มเชื้อค่ะคุณแม่ แต่การให้ยาฆ่าเชื้อในเบื้องต้น เป็นไปตามงานวิจัยว่า อาการแบบนี้ จะพบเชื้อใดที่เป็นต้นเหตุได้มากที่สุด เรียงตามลำดับจากที่พบมาก ไปจนถึงการพบน้อยค่ะ บวกกับหลักฐานทางการ ติดเชื้อ ที่มีอยู่ เช่น การเพาะเชื้อในเลือด เป็นต้น ถ้าในเลือด ไม่ขึ้นเชื้อ ก็อาจจะต้องตัดชิ้นเนื่อไปตรวจ ซึ่งคุณหมอจะไม่ได้เลือกทำเป็นอย่างแรก เนื่องจากเป็นหัตถการที่รุกล้ำร่างกายตนไข้ค่อนข้างมาก อาจมีผลข้างเคียงที่อันตราย
จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า ก้อนไม่ใช่การติดเชื้อ หรือ ทำภาพวินิจฉัยจนคิดว่าควรต้องเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ คุณหมอก็จะแต้งให้คุณแม่ทราบอีกครั้งค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
หลังจากที่น้องเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อได้ 2ชั่วโมง ตอนนี้หน้าแดงตาบวม ความดันปกติ หมอขอเจาะเลือดไปตรวจ และหยุดยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ ลืมบอกไปว่าตอนมานอนโรงพยาบาลเมื่อ2วันก่อน ผลเลือด พบว่ามีเม็ดเลือดขาว 30000 ค่ะ หมอยังไม่สรุปว่าเกิดจากการแพ้ยาค่ะ อาการไม่ดีขึ้นเลยนับตั่งแต่มานอนโรงพยาบาล เหมือนจะหนักกว่าเดิมด้วยค่ะ ทำอย่างไรดีค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
เนื่องจากหมอไม่ได้ทราบประวัติการรักษา ตรวจร่างกาย หรือผลแลปต่างๆน้องที่ครถ้วน การวินิจฉัยในจุดนี้ จึงอาจจะบอกได้ยากว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับน้องนะคะ ดีที่สุด คือ คุณแม่ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ ถึงปัญหา และความไม่เข้าใจต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ลูกชายวัย3เดือน มีต่อมน้ำเหลืองขนาด 2ซน โต บริเวณใต้คาง มีไข้ กดแล้วรู้สึกเจ็บ เพราะแกร้อง เบื้องต้นให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือแล้ว 24ชม แต่ยังมีไข้อยู่ ไม่ยุบตัวลง หมอจะให้อัลตราซาววันนี้ อาการแบบนี้เป็นโรงอะไรได้บ้างค่ะ เป็นโรคร้ายแรงไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)