September 19, 2018 17:13
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่ 2 ห่างจากเม็ดแรกไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ค่ะ แต่ประสิทธิภาพอาจลดลงกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงมากอยู่แล้วนะคะ ต่อให้รับประทานถูกต้องตามเวลาที่ระบุไว้ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ
ดังนั้น เมื่อรับประทานไปแล้วก็ต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ควรตรวจการตั้งครรภ์นะคะ
และหลังจากนี้ หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ได้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นถ้าหากรับประทานได้อย่างถูกต้อง คือ รับประทาน ทีละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 15-25% ครับ
ส่วนการรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ช้ากว่ากำหนดก็อาจมีผลให้โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์มีมากขึ้นได้ครับ
อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินซ้ำ เนื่องจากจะทำให้ร่างกายได้รับยาในปริมาณที่มากเกินไป โดยไม่ทำให้โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยลงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วเราจะกินยาคุมกำเนิดแบบเม็ดตอนนี้เลยได้ไหมค่ะหรือต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ควรรอให้ประจำเดือนมาก่อนนะคะ เพราะ...
1. จะได้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอนก่อนที่จะใช้ยาคุมรายเดือน
2. ยาคุมรายเดือนไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดฉุกเฉิน
3. หากเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนตอนนี้ ก็ยังไม่มีผลคุมกำเนิดได้อยู่ดี แต่ต้องรอให้ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะเริ่มมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ
4. การรับประทานยาคุมรายเดือนตอนนี้ อาจจะทำให้ประจำเดือนรอบนี้เลื่อนช้าออกไป ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้ใช้กังวลมากขึ้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วสำหรับคนที่ไม่เคยกินยาคุมกำเนิดควรกินยาคุมกำเนิดแบบใหนถึงจะดีค่ะ
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หมายถึง "ควรเลือกใช้ยาคุมรายเดือนยี่ห้อใด" ใช่มั้ยคะ?
การเลือกใช้ยาคุมรายเดือน จะต้องประเมินตาม "ความเหมาะสม" ของแต่ละบุคคลค่ะ พิจารณาจากสภาวะทางสุขภาพ, โรคประจำตัว, ข้อจำกัด, ความถนัด/ความสะดวกในใช้ รวมถึงความต้องการอื่น ๆ ดังนั้น จึงไม่มียาคุมยี่ห้อใดที่ "ดีที่สุด" สำหรับทุกคน และยาคุมที่ "เหมาะสมที่สุด" กับแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันได้ค่ะ
นอกจากยาคุมรายเดือนแล้ว ก็ยังมีวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อีกหลายวิธี เช่น แผ่นแปะคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด และการใส่ห่วงอนามัย ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน หากผู้ถามสนใจการคุมกำเนิดชั่วคราวเหล่านี้ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อปรึกษาหาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม หรือสูตรของยาเม็ดคุมกำเนิดที่เหมาะสมดีกว่านะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วยาแบบกินกับแบบฉีดอะไรดีกว่าค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เนื่องจากยาคุมชนิดเม็ดและยาคุมชนิดฉีด มีทั้งที่เป็นชนิดฮอร์โมนรวมและฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวเหมือนกันทั้งคู่ หากไม่ลงรายละเอียดมา ก็จะขอตอบคร่าว ๆ เฉพาะในเรื่องของประสิทธิภาพและความสะดวกในการบริหารยานะคะ
1. ในด้านของประสิทธิภาพ
- ยาฉีดคุมกำเนิดมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 - 6%
- ยาเม็ดคุมกำเนิดมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9%
จะเห็นได้ว่ายาฉีดมีประสิทธิภาพสูงกว่านะคะ แต่ถ้าใช้ถูกต้องและตรงเวลาทั้งคู่ ประสิทธิภาพสูงสุดก็ไม่แตกต่างกันมากค่ะ
2. ในด้านความสะดวกในการบริหารยา
- ยาฉีด ต้องฉีดซ้ำทุก 1 หรือ 3 เดือน (ขึ้นกับชนิดของยาฉีดที่ใช้)
- ยาเม็ด ต้องรับประทานทุกวันไปตลอด หรือรับประทานนาน 3 สัปดาห์เว้น 1 สัปดาห์ (ขึ้นกับรูปแบบของยาคุมที่ใช้)
จะเห็นได้ว่า การฉีดยาคุมทำให้ผู้ใช้สะดวกในแง่ที่ไม่ต้องบริหารยาบ่อย ๆ ค่ะ แต่ก็ไม่สามารถฉีดเองได้ จึงต้องไปรับบริการที่โรงพยาบาลหรือคลินิกสูตินรีเวชใกล้บ้านตามนัดนะคะ
..
..
..
หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลที่กล่าวมาในข้อ 1 และ 2 ยาฉีดจะเหมาะสำหรับผู้ที่กังวลว่าอาจลืมรับประทานยา หรือไม่ต้องการบริหารยาบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ.... พอดีว่าหนูมีอะไรกับแฟนแล้สแฟนหลั่งในค่ะแล้วหนูได้ไปซื้อยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินมาค่ะกินเม็ดแรกไม่เกิน24ชม.ที่มีอะไรกันค่ะแต่เม็ดที่2ต้องกินไม่เกิน12ชม.ที่กินเม็ดแรกไปแต่หนูลืมค่ะหนูกินเม็ดที่2มันเกิน12ชม.ค่ะ หนูจะท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)