January 15, 2019 11:30
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะมีผลทำให้ประจำเดือนเลื่อนห่างออกไปจนกว่าจะรับประทานยาเม็ดฮอร์โมนหมดครับ และในการรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือนถ้าไม่ได้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ เมื่อพิจารณาจากการเริ่มรับประทานยาคุมที่อาจไม่ได้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และการรับประทานยาคุมในลักษณะนี้ก็อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพเลื่อนห่างออกไปก็จะส่งผลให้เกิดความกังวลที่มากขึ้นได้โดยไม่ได้ประโยชน์จากยาคุมอย่างชัดเจน หมอจึงแนะนำว่าในตอนนี้อาจหยุดรับประทานยาคุมไปก่อน เมื่อมั่นใจว่าประจำเดือนมาแล้วจึงค่อยเริ่มรับประทานยาคุมอีกครั้งในตอนนั้นครับ
ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์นั้นจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ก็ต่อเมื่อตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ จึงจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ดังนั้นในกรณีนี้จึงยังมีความจำเป็นต้องรอตรวจการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ถ้าไม่ต้องการหยุดกินยาคุมเเผงนี้ สามารถกินต่อให้หมดเเผงเเล้วรอประจำเดือนมาตอนนั้นได้ไหมคะ เเล้วถ้าไม่มาก็คือท้องใช่ไหมคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เมื่อผู้ถามรับประทานยาคุมมาหลายวันแล้ว ต่อให้ไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็จะถูกเลื่อนออกไปตามลักษณะการใช้ยาค่ะ นั่นคือ ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด หมดแผงแล้วจะต้องเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อแผงใหม่ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
แต่ถ้าใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด หมดแผงแล้วต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" ซึ่งอาจมี 7 เม็ด หรือ 4 เม็ด ขึ้นกับยี่ห้อยาคุมที่ใช้ โดยมักจะมีประจำเดือนหลังใช้ "เม็ดยาฮอร์โมน" หมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อยค่ะ
หากการตรวจการตั้งครรภ์ในวันที่ 10 และ 13 มกราคม ทำได้ถูกต้อง นั่นคือ ใช้ชุดทดสอบถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน โดยใช้ปัสสาวะแรกของวัน ผลตรวจที่ออกมา 1 ขีดก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันตรวจอย่างน้อย 14 วัน ไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถจะยืนยันได้ว่าผู้ถามไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอนนะคะ เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน มีการใช้ถุงยางอย่างไม่เหมาะสมค่ะ นั่นคือมีการสอดใส่ก่อนที่จะใช้ถุงยาง จึงถือว่ายังมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์แต่ชุดทดสอบอาจยังไม่สามารถตรวจวัดได้ เนื่องจากระยะเวลาจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปหาวันที่ตรวจยังน้อยเกินไปค่ะ
ดังนั้น แนะนำให้รอดูไปก่อนตามที่กล่าวไปข้างต้นนะคะ และควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยอย่างถูกต้องทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันครบ 7 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากไม่ต้องการที่จะหยุดรับประทานยาคุมในตอนนี้ก็มีข้อที่ควรทราบดังต่อไปนี้ครับ
1. หลังจากนี้จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพื่อรอให้ยาคุมออกฤทธิ์ได้เต็มที่ก่อน
2. ยาคุมจะไม่ได้ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ในช่วงที่เกิดขึ้นก่อนรับประทานยาคุมครบ 7 วัน
3. หลังจากนี้ประจำเดือนจะเลื่อนห่างออกไปอีกจนกว่าจะรับประทานยาคุมหมดแผง
4. ถ้าหากรับประทานยาคุมหมดแผงแล้วประจำเดือนยังไม่มาก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มยาแผงใหม่ ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์จึงให้รับประทานยาคุมแผงใหม่ได้ตามปกติ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเล้วอาการปวดท้องนี่เป็นเพราะอะไรคะ รู้สึกไม่สบายตัว หายใจไม่ทั่วท้อง เเละรู้สึกเเน่นๆตลอดเวลา เหมือนท้องมันอืดๆ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อาการปวดท้องเป็นอาการที่ไม่มีความจำเพาะต่อสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งครับ โดยอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผลข้างเคียงของยาคุมแบบรายเดือน อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ฯลฯ
ทั้งนี้การที่จะบอกสาเหตุที่แน่ชัดได้จำเป็นต้องอาศัยรายละเอียดของอาการที่มากขึ้นร่วมกับการตรวจร่างกายเพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมครับ
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เมื่อทราบสาเหตุที่แน่ชัดแล้วจึงจะให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ก่อนหน้ากินยาคุมรายเดือนมาตลอดเเละมีการหยุดไปเเละได้มีพสพ.วันที่27/12/61 เเล้วถุงยางหลุด เลยกินยาคุมฉุกเฉินหลังจากนั้น3 วันมีเลือดออกเหมือนประจำเดือน คือวันที่1-4มีปริมาณมากพอสมควรประมาณ3-4 วัน เเล้วหลังจากวันที่27 มีพสพเเบบสอดใส่เเปปนึงเเล้วก็ใส่ถุงยางในวันที่28-30 เเละวันที่6-9 วันที่10/01/62ใช้ที่ตรวจครรภ์ผลไม่ท้อง ละมีเลือดออกมาเป็นสีน้ำตาลเป็นวงๆที่กางเกงใน วันนั้นก้มีเลือดออกสีน้ำตาลเเบบนั้นทุกครั้งที่ใช้ทิชชู่เช็ดเวลาเข้าห้องน้ำก็จะมีติดมาตลอด เลยนึกว่าจะเป็นประจำเดือนเลยเริ่มกินยาคุมรายเดือนเเผงใหม่ คือประจำเดือนก็ยังไม่มา มีเลือดสีน้ำตาลกระปริบกระปรอย 3 วัน เลยตรวจครรภ์ใหม่วันที่13/01/62 ก็ไม่ท้อง มีอาการท้องผูก ท้องอืดๆ ปวดท้องหน่วงๆตลอดเวลา หิวบ่อยหิวง่าย เเต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา เลยสงสัยว่าจะท้องไหมคะ เเล้วประจำเดือนจะมาในช่วงที่กินยาคุมอยู่ได้ไหมหรือต้องรอจนกินหมดเเผงนี้ถึงจะมา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)