ประจำเดือนมาล่าสุดวันที่ 19 มีนาแล้ววันที่ 26 มีนาได้ช่วยตัวเองกับแฟนค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ามีน้ำอสุจิติดนิ้วตอนใส่มาในช่องคลอดมั้ย หลังจากนั้นวันที่ 4 เมษามีเลือดคล้ายประจำเดือนออกมาเป็นแบบนี้ถึงวันที่ 7 เมษา(เลือดไม่ติดผ้าอนามัยเลยค่ะ จะออกมาเฉพาะตอนเข้าห้องน้ำ) จนตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ มีอาการปวดท้องเหมือนประจำเดือน แบบนี้มีโอกาสท้องมั้ยคะ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะคุณหมอ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในช่องคลอดโดยตรงจะแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ครับ เนื่องจากอสุจิที่ออกมาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกแล้วก็จะมีการเสื่อมสภาพไปในเวลาอันรวดเร็ว และระยะห่างจากช่องคลอดไปจนถึงมดลูกที่อสุจิจะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ก็ห่างกันเกินกว่าที่อสุจิจะเข้าไปได้เองโดยไม่มีอะไรพาเข้าไปครับ

จากเหตุการณ์นี้จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการตั้งครรภ์ครับ

แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานและเกิดความกังวลก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

เลือดที่ออกมาผิดปกติในระหว่างรอบเดือนนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- เป็นเลือดที่ออกในช่วงที่มีการตกไข่
- มีการอักเสบติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญมากผิดปกติ
เป็นต้น

ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยและหยุดไปได้เองแล้วก็อาจรอสังเกตอาการต่อไปก่อนได้ครับ แต่ถ้าหากมีเลือดผิดปกตินี้ไหลออกมาบ่อยๆ ออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก หรือออกมาติดต่อกันเป็นเวลานานก็ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ตกขาวเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้ในระหว่างรอบเดือนตามการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายครับ ถ้าหากตกขาวนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง-เขียว จับกันเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นเหม็น หรือทำให้เกิดอาการคันก็ไม่ได้เป็นปัญหาครับ

อาการคัดตึงเต้านมอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น ระดับฮอร์โมนในเลือดที่มีการเปลี่ยนแปลงไป มีการอักเสบของเต้านม มีซิสต์ที่เต้านม เป็นต้น

ถ้าหากมีอาการคัดเต้านมติดต่อกันหลายวันนานผิดปกติก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

2-3 วันค่ะ

การที่ประจำเดือนมาช้าอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา - ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด

ถ้าหากประจำเดือนเพิ่งมาช้าไปเพียงเล็กน้อยก็สามารถใจเย็นๆและรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ

และถ้าหากกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์มากก็สามารถก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว คือ ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ และผลตรวจทั้ง 2 ครั้งออกมาขึ้น 1 ขีดตรงกัน โอกาสที่ผลตรวจจะผิดและมีการตั้งครรภ์ก็เป็นไปได้น้อยมากครับ

ในกรณีนี้ประจำเดือนจึงน่าจะขาดหายไปจากสาเหตุอื่นๆมากกว่า เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด

ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

อาการเจ็บหน้าอกมีตกขาวมากขึ้นอาจเป็นอาการนำช่วงก่อนมีประจำเดือนได้ครับ

ถ้าหากหน้าอกไม่ได้มีการบวมแดงหรือตกไข่ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นสีเหลือง-เขียวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น หรือทำให้เกิดอาการคันก็มักไม่มีมีปัญหาครับ

แต่ถ้าหากอาการเหล่านี้เป็นติดต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์โดยที่ยังไม่มีประจำเดือนมาก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

อาการเจ็บคัดตึงเต้านม มีอาการตกขาวมากขึ้นอาจเป็นได้ทั้งจากอาการนำก่อนมีประจำเดือนและอาการที่เกิดในคนที่ตั้งครรภ์ครับ

แต่จุดที่ทำให้แตกต่างกันคือในคนที่ตั้งครรภ์จะไม่มีอาการปวดท้องร่วมด้วยยกเว้นแต่ว่าจะมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง และอาการที่เกิดในคนตั้งครรภ์ก็มักเกิดหลังจากมีการตั้งครรภ์ 1-2 เดือนไปแล้ว ซึ่งก็จะต้องมีการขาดประจำเดือนนำมาก่อนระยะหนึ่งครับ

นอกจากนี้อาการตามที่หมอกล่าวถึงก็ไม่ใช่อาการที่จำเพาะถึงขนาดที่จะนำมาใช้ตัดสินว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ได้ ในกรณีนี้หมอแนะนำให้เชื่อตามผลตรวจการตั้งครรภ์ที่ได้ตรวจไปเป็นหลัก ไม่ต้องกังวลครับ

การมีตุ่มไขมันที่บริเวณรอบหัวนมเป็นลักษณะปกติที่เกิดขึ้นได้ และไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ครับ

ธรรมชาติของประจำเดือนจะมามากในวันแรกๆและค่อยๆลดปริมาณลงเรื่อยๆในวันต่อๆมาครับ ถ้าหากลักษณะเลือดที่ออกมายังคล้ายประจำเดือนอยู่ ถึงแม้จำนวนวันที่มาอาจผิดปกติไปบ้างก็อาจรอสังเกตไปก่อนได้ครับ

แต่ถ้าหากในรอบเดือนต่อๆไปประจำเดือนยัฃคงมาผิดปกติอยู่ หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

ความเครียดอาจมีผลให้ประจำเดือนมาน้อยผิดปกติได้ครับ

ถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องและใส่ถุงยางอนามัยตลอดเวลาที่มีการสอดใส่ โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 2% เท่านั้นครับ

การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ๆด้เพียง 2% เท่านั้นครับ

แต่ถ้าหากกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ในเบื้องต้นหมอก็แนะนำให้ใจเย็นๆและรอสังเกตประจำเดือนดูก่อน ถ้าประจำเดือนมาตามปกติก็จะเป็นการบอกได้ทางหนึ่งว่าไม่มีการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ