June 20, 2019 12:03
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
1.มีเพศสัมพันธ์ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยทุกครั้ง ป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม และแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยเฉพาะเมื่อยังมีรอยโรคปรากฎอยู่ครับ
2.ไม่แนะนำให้ฉีดครับ เนื่องจากการฉีดวัคซีนนี้จะมีประสทิธิภาพมากสุดในคนอายุ11-26ปี ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์และยังไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อนครับ
3.การติดเชื้อนี้จะยังคงอยู่ในร่างกาย ฉะนั้นควรดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรง หากภูมิต้านทานอ่อนแอลง อาจทำให้โรคกลับมาเป็นซ้ำได้ครับ
4.การตรวจหากไม่พบเชื้อHPVชนิด16,18 หรือ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกไม่พบ แนะนำให้ตรวจซ้ำในทุก6เดือน ถึง1ปีครับ โดยปกติหากมีการติดเชื้อไวรัสHPVชนิดที่ก่อให้เกิดทะเร็งปากมดลูกนั้น จะใช้เวลาพัฒนา เป็นมะเร็งปากมดลูก โดยประมาณใน10-15ปีครับ
หากพบการติดเชื้อจริง ควรต้องคุยกับแพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งการรักษามีหลายรูปแบบเช่น การผ่าตัดด้วยไฟฟ้า การจี้เย็น การใช้เลเซอร์ การผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อที่มีความเสี่ยงพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกออกด้วยเลเซอร์เป็นรูปโคน เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
โรคหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อ HPV(Human papillomavirus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัส ไวรัสชนิดนี้ถูกค้นพบมากกว่า200สายพันธุ์ กว่า 40สายพันธุ์ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก
1)โรคหูดหงอนไก่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะการรักษามีทั้งการรักษาด้วยยาและการรักษาด้วยการผ่าตัด มีอัตราการหายของหูด 35-100% ภายใน3-15สัปดาห์
การรักษาหูดอวัยวะเพศ ช่วยลดการติดเชื้อHPV**แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้**เซลล์ที่มีการติดเชื้อHPVแบบแฝงเป็นจึงสามารถการกลับเป็นซ้ำและการแพร่เชื้อให้แก่คู่นอนได้ค่ะ
โดยอัตราการกลับเป็นซ้ำขึ้นกับสภาวะภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยและการลุกลามของรอยโรค ผู้ป่วยประมาณ 20-30%จะกลับเป็นซ้ำ (ในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่) ภายใน 2-3สัปดาห์
2)สามารถฉีดได้ค่ะ แต่ประสิทธิภาพการป้องกันจะไม่ดีเท่าฉีดเมื่อก่อนมีการติดเชื้อHPVแต่มีส่วนลดโอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ แต่ไม่เท่ากับฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์หรือยังไม่มีการติดเชื้อค่ะ
3)เชื้อไม่ได้หายไปแต่แฝงอยู่ในเซลล์ตามคำตอบข้อ1 มีโอกาสเป็นซ้ำได้เสมอค่ะ
4)มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อHPVส่วนนึงค่ะ แต่มะเร็งช่องคลอดไม่น่าเกี่ยวกับHPV และขนาดหูดไม่สามารถจำแนกชนิดเชื้อได้ค่ะ ดังนั้นรอผลชนิดไวรัสก่อนค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมอาจจะสอบถามนรีแพทย์เพิ่มเติมได้ ถึงผลการตรวจค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วแฟนที่รับเชื้อไปแล้วเราจะสามารถใกล้ชิดกันได้มากน้อยแค่ไหนคะ นอกจากการใช้ถุงยางอนามัย เราสามารถจูบแบบopen mouth ได้หรือไม่คะ หากก่อนหน้านี้เคยมี oral sex กันค่ะ แล้วหากในอนาคตวางแผนมีลูกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
สามารถใกล้ชิดกันได้ค่ะ เชื้อHPVจะติดต่อผ่านทางการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนังหรือเยื่อบุที่ติดเชื้อ โดยเชื้อไวรัสจะเข้าไปในเซลล์านทางรอยถลอกขนาดเล็ก
ดังนั้น การติดเชื้อHPVที่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักจึงมักเกิดผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยผู้ที่แพร่เชื้อไม่จำเป็นต้องมีรอยโรคแต่ในคนที่มีรอยโรคจะมีโอกาสแพร่เชื้อได้มากกว่า เนื่องจากมีปริมาณไวรัสสูงกว่า
เมื่อได้รับเชื้อHPVเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการติดเชื้อในระยะแฝง โดยอาจมีหรือไม่มีอาการก็ได้ค่ะ
การใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ช่วยลดการติดเชื้อHPVและช่วยให้สามารถกำจัดเชื้อได้มากขึ้น
นอกจากนั้นยังช่วยลดการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้แก่ เชื้อHIV หนองในแท้ หนองในเทียม และโรคเริม ได้อีกด้วย
การขลิบอวัยวะเพศชายก็สามารถช่วยลดการติดเชื้อHPVและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ได้แก่HIVและเริมได้ค่ะ
แนะนำตรวจติดตามมะเร็งปากมดลูกทุกปีและหากมีรอยโรคแนะนำไปพบแพทย์ใกล้บ้าน
ผู้เป็นHPVสามารถมีบุตรได้ค่ะ โดยมากหากไม่มีรอยโรคขณะใกล้คลอดก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ แต่หากมีรอยโรคและเชื้อHPVสายพันธุ์6และ11 อาจทำให้เกิดการติดHPVลงปอด(respiratory papillomatosis)ในเด็กทารกแรกเกิดได้ แต่เกิดได้น้อยค่ะ ดังนั้นจึงมักจะพิจารณาผ่าตัดคลอดในรายที่รอยโรคกีดขวางช่องทางคลอด หรือการคลอดทางช่องคลอดจะทำให้มีเลือดออกมากค่ะ แค่โรคนี้ไม่ติดต่อทางพันธุกรรมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สรุปเราควรหลีกเลี่ยงการจูบแบบopen mouth หรือไม่คะ?
หากรอยโรคหายไป แล้วในอนาคตเรามีแฟนใหม่ เราควรบอกเขาไหมคะว่าเราเป็นหูดหงอนไก่ เพราะหากเราต้องการมีลูกกับแฟนใหม่แสดงว่าเขาก็มีโอกาสรับเชื้อจากเรา ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ ใจนึงก็อยากเลิกกับแฟนปัจจุบัน เพราะเขาไม่แสดงอาการเลยคิดว่าหากเขาไม่แสดงอาการอีกภายในสองปี แสดงว่าร่างกายเขาคงกำจัดเชื้อได้หมด เขาควรมีโอกาสไปเจอคนใหม่ที่ไม่ติดเชื้อไหม แล้วชีวิตนี้เราจะมีแฟนมีครอบครัวได้อีกไหม ไม่อยากแพร่เชื้อให้ใครอีกเลยค่ะ แค่รับเชื้อมาก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
สำหรับการรักษาโดยยาทานั้นยาข้างต้นที่สั่งซื้อสามารถใช้ทารักษาหูดหงอนไก่ได้ค่ะ วิธีใช้คือวันละ 1ครั้งก่อนนอน 3ครั้ง/สัปดาห์ นานเป็นเวลา16สัปดาห์ หลังทา6ชั่วโมง ล้างออกด้วยสบู่ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาอาจจะมีอาการผิวแดง ระคายเคือง แผล มีตุ่มน้ำ ผิวหนังสีจางลงได้ค่ะ ขออภัยที่ตอบช้านะคะ
ส่วนเรื่องการติดHPVอย่างที่บอกว่าเชื้อจะอยู่ในร่างกายตลอดไป สมมติถ้าเลิกกับแฟนคนนี้คุณ2คนมีเชื้อHPVทั้งคู่ติดต่อสู่คู่นอนทุกคนได้ค่ะ โดยคู่นอนคนปัจจุบันควรได้รับข้อมูลว่าตนเองอาจติดเชื้อHPVไปแล้วแม้จะไม่มีอาการหรือรอยโรค อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ทำการตรวจหาเชื้อHPVในผู้ชายค่ะ ควรตรวจร่างกายเพื่อหารอยโรคและหากมีควรทำการรักษาค่ะ
แม้ว่าเชื้อสาเหตุของหูดอวัยวะเพศกว่า 90% จะเป็นเชื้อHPV6และ11ซึ่งไม่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง แต่อย่างไรก็ตามสามารถพบการติดเชื้อร่วมของเชื้อHPVชนิดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งได้บ่อย
จากการศึกษาพบอุบัติการณ์เกิดโรคมะเร็งเหล่านี้ในผู้ป่วยที่มีหูดอวัยวะเพศสูงขึ้น ได้แก่
•มะเร็งทวารหนัก (Anal cancer, SIR ชาย 21.5 เท่า, หญิง 7.8 เท่า)
•มะเร็งปากช่องคลอด,มะเร็งช่องคลอด,มะเร็งปากมดลูก
•มะเร็งองคชาติ
•มะเร็งศีรษะและคอ
การที่รอยโรคหูดอวัยวะเพศจะกลายเป็นมะเร็งโดยตรง พบได้น้อย จึงแนะนำว่าให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามเกณฑ์ตลอดและสำรวจรอยโรคเรื่อยๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ หมอบอกว่าเป็นหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศแถวปากช่องคลอดค่ะ 1. มีวิธีการรักษาและดูแลตัวเองเป็นพิเศษอย่างไรบ้างคะ เพื่อไม่ให้กลับเป็นซ้ำ 2. หลังจากรักษารอยโรคหายแล้วสามารถฉีดวัคซีนแบบ4สายพันธุ์ได้หรือไม่คะ 3. หากรอยโรคหายไปนานแบบไม่กลับมาเป็นซ้ำหลายปีแล้ว เป็นไปได้ไหมคะว่าภูมิต้านทานร่างกายกำจัดเชื้อไปหมดแล้ว เห็นบางคนไม่กลับมาเป็นอีก5-7ปีแล้ว บางคนตั้งครรภ์ก็ไม่มีหูดขึ้นค่ะ 4. ของเราเพิ่งพบว่าเป็นหูด ตอนนี้กำลังรอผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและhpv testing อยู่ค่ะว่าติดสายพันธุ์ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ คำถามก็คือการเก็บตัวอย่างของหมอเพื่อตรวจหาเชื้อนั้นเก็บบริเวณปากมดลูกใช่ไหมคะ แล้วเราเป็นหูดตรงปากช่องคลอด ถ้าหากผลออกมาพบว่าไม่มีเชื้อรุนแรง เราควรไปหาหมออีกที่เพื่อตรวจป้องกันมะเร็งปากช่องคลอดหรือมะเร็งช่องคลอดไหมคะ เคยอ่านเจอลักษณะหูดที่อวัยวะเพศมันมีได้หลายแบบอ่ะค่ะ คือถ้าเหมือนหงอนไก่มักเกิดจากสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง(6,11) แต่ถ้าเป็นตุ่มเล็กๆอยู่เป็นกลุ่มๆกันมักเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรง(16,18) ของเราเท่าที่สังเกต มันมีทั้งสองชนิดนี้เลยกังวลมากเลยค่ะ ทั้งนี้หมอที่เราไปหาครั้งแรกนั้นท่านบอกว่าของเรายังเป็นไม่เยอะ ตอนนี้รักษาด้วย Aldara 5% อยู่ค่ะ ตอนนี้กังวลมากเลยค่ะ ไม่อยากกลับมาเป็นอีก รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)