ดิฉันอายุ 51 ปีแล้วหมดประจำเดือนมา 4 ปีแล้วค่ะ เวลาร่วมเพศกับสามีแล้วแสบบริเวณอวัยวะและมีน้ำออกมากไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำอะไรและดิฉันไม่ได้ร่วมเพศกับสามีมาเกือบเดือนแล้วเพราะอยู่ดีก็มีอาการคันและเป็นเม็ดขึ้นข้างๆอวัยวะเพศ ดิฉันได้ซื้อยาทาแก้คันมาทาแต่ก็ไม่หายเป็นมาเกือบอาทิตย์อยู่ดีๆก็มีตกขาวดิฉันกลัวมากนอนไม่ค่อยหลับกลัวเป็นมะเร็งเลยขอปรึกษาคุณหมอว่าดิฉันจะเป็นมะเร็งรึเปล่าคะ

สวัสดีค่ะ หลังจากหมดประจำเดือนแรก ช่องคลอดของผู้หญิง อาจเกิด ภาวะที่เรียกว่า เซลล์เยื่อบุช่องคลอดฝ่อ (Vulvovaginal atrophy) ได้ค่ะ ซึ่งมักจะมีอาการ คัน แสบ ช่องคลอดแห้ง เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ และอาจมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ การรักษา
** ใช้สารหล่อลื่นทา เช่น เจลหล่อลื่น ขณะมีเพศสัมพันธ์ มักเลือกให้ในคนที่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมสูง หรือใช้ ตัวถ่างช่องคลอด(dilator) ซึ่งจะคล้ายกับการมีเพศสัมพันธ์
** ให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน

ส่วนผื่นคันๆเม็ดๆที่ขึ้น ถ้ามีลักษณะปื้นแดงๆบริเวณขาหนีบ /อวัยวะเพศ อาจสังสัยการติดเชื้อราได้ค่ะ (candidiasis)

ทั้งนี้อาการดังกล่าวควรมาตรวจร่างกาย และซักประวัติเพิ่ม รวมทั้งตรวจภายใน เพื่อได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องค่ะ

สวัสดีค่ะ กรณีหมดประจำเดือน (menopause) แล้ว หมายความว่า ฮอร์โมนเพศต่างๆของผู้หญิงเราจะลดลงค่ะ ทำให้มีอาการแสดงต่างไของ วัยทอง มากมาย เช่น ร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน รวมไปถึง ภาวะช่องคลอดแห้ง ค่ะ

ซึ่ง การที่ ช่องคลอดแห้งนี้เอง ทำให้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ แล้วอาจมีอาการแสบ คัน หรือเจ็บ หรือเกิดบาดแผลแล้วมีเลือดออกได้ค่ะ
การที่เรา เสียดสีที่ช่องคลอดที่แห้งซ้ำๆ หริอบ่อยๆ อาจเกิด ช่องคลอดอักเสบ อาจบวม แดง มีตุ่ม หรือ ติดเชื้อ ซ้ำซ้อนได้

ทางแก้ไขมีหลายวิธีค่ะ เช่น การทา estrogen cream ที่ช่องคลอด หรือ การทานยาปรับฮอร์โมนค่ะ

แนะนำว่า ก่อนใช้ยาควรปรึกษาสูตินรีเวช เพื่อตรวจดูภาวะและข้อห้ามการใช้ยาต่างๆนะคะ

ตรวจได้ทุกรพ นะคะคนไข้ และแนะนำเพิ่ทเติมด้วยว่า ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปีด้วยค่ะ