ผมเคยมีอะไรกับผู้หญิงโดยไม่สวมถุงยางเมื่อ2ปีก่อนและมีอาการเจ็บที่ปลายอวัยวะเพศแต่ตอนนั้นกังวัลเรื่องโรคhivมากพอครบ3เดือนก็ไปตรวจก็ไม่พบโรคhivเลยไม่ได้สนใจอาการก็หายไปเอง แต่พอผ่านไปอีก6เดือนอาการก็กับมาอีกคือเจ็บอวัยวะเพศและมีผื่นแคงที่ปลายอวัยวะเพศก็ไปตรวจอีกก็ไม่พบโรคhivจากนั้นก็เป็นเกือบทุก3เดือนและถี่ขึ้นก็ไปตรวจอีกปีนี้ผมตรวจไป3ครั้งแลัวครับคนั้งนี้เป็นอีก(ครั้งสุดท้ายตรวจหาซิฟิลิสด้วยก็ไม่พบ)ทุกครั้งที่ผมมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟนผมสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งครับแต่ตอนทำออรัสเซ็กไม่ได้สวมถุงยางครับ ตอนนี้ทุกเช้าผมฉี่ใส่ขวดใส่จะมีเส้นขาวๆยาวประมาณ1เซนติเมตรแต่ใส่เวลาอื่นไม่มีครับมีแต่ตอนเช้า คำถามคือ1ออรัสเซ็กจะทำให้ติดโรดhivไหมครับ 2หนองในเทียมเป็นๆหายได้ไหมครับ3อาการที่ว่ามาข้างต้นผมมีโรดอื่นอีกไหมครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ
หมอขอตอบไล่ไปทีละคำถามนะครับ
1. การทำออรัลเซ็กซ์นั้นถ้าเป็นฝ่ายถูกทำก็จะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดเชื้อ HIV ครับ เพราะในน้ำลายชฃของผู้ติดเชื้อจะมีเชื้ออยู่ในปริมาณที่ไม่มากพอที่จะทำให้ติดต่อได้ แต่ถ้าหากเป็นฝ่ายออรัลเซ็กซ์ให้คนอื่นก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้ 0.04% ครับ แต่ถ้าหากได้ตรวจเลือดห่างจากการรับความเสี่ยงมาเกิน 3 เดือนไม่พบการติดเชื้อก็จะสามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีการติดเชื้อครับ

2. ถ้าหากเป็นโรคหนองในเทียมแล้วไม่ได้รับการรักษาอาการก็จะเป็นอยู่ตลอดโดยไม่เป็นๆหายๆครับ และอาการที่สำคัญก็จะเป็นการมีน้ำผิดปกติไหลออกมาจากอวัยวะเพศและมีปัสสาวะแาบขัด

3. จากที่เล่ามาหมอแนะนำว่าควรไปตรวจปัสสาวะเพิ่มเติมดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ เพราอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้ครับ

การมีเส้นผิดปกติไหลออกมาตอนปัสสาวะนั้นไม่ได้เป็นอาการที่จะบ่งบอกถึงการเป็นโรคหนองในเทียมอย่างชัดเจนครับ แต่ที่ต้องระวังคืออาจเป็นอาการขอวการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ตามที่หมอได้ตอบไว้ในข้อที่ 3

ในกรณีนี้จึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะให้แน่ใจก่อนว่ามีความผิดปกติหรือไม่ครับ