September 28, 2018 18:43
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมอเข้าใจว่าคุณน่าจะหมายถึงการรับประทานยาคุมฉุกเฉินใช่ไหมครับ
ยาคุมฉุกเฉินนั้นจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ แบบที่ใน 1 แผงมียาเพียงเม็ดเดียว และแบบที่ใน 1 แผงมียา 2 เม็ด
ในกรณีที่เป็นรูปแบบที่ในแผงมียาเพียงเม็ดเดียวก็ให้รับประทานยาดังกล่าวเม็ดเดียวพอครับ
แต่ถ้าเป็นชนิดที่ในแผงมียา 2 เม็ดก็สามารถรับประทานได้ 2 วิธี คือ
1. รับประทานพร้อมกันทันที 2 เม็ด
2. รับประทานทีละ 1 เม็ดห่างกันเม็ดละ 12 ชั่วโมง
จะเลือกรับประทานด้วยวิธีใดก็ได้ครับ แต่โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้รับประทานพร้อมกันทันที 2 เม็ดเพื่อป้องกันการลืมรับประทานยาเม็ดต่อไป รวมถึงช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสูงขึ้นได้เร็วกว่า
และไม่ว่าจะรับประทานด้วยวิธีใดก็ให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งตัวยาจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85%
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หมายถึง "ยาคุมฉุกเฉิน ชนิดที่มีแผงละ 1 เม็ด" ได้แก่ ยาคุมยี่ห้อเมเปิ้ลฟอร์ท หรือเปล่าคะ?
ยาคุมเมเปิ้ลฟอร์ท 1 เม็ด จะมีตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล 1.5 มิลลิกรัมค่ะ
ส่วนยาคุมฉุกเฉินชนิดที่มีแผงละ 2 เม็ด เช่น โพสตินอร์, มาดอนนา, แมรี่พิงค์, นอร์แพ็ก และเลดี้นอร์ จะมีตัวยาดังกล่าวอยู่เม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม เมื่อรวมกัน 2 เม็ดก็จะมีตัวยาเท่ากับ 1.5 มิลลิกรัม
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อใด เมื่อรวมปริมาณยาทั้งแผงจึงไม่แตกต่างกันค่ะ
..
..
และนอกจากจะรับประทานแบบแยกเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 0.75 มิลลิกรัม ห่างกัน 12 ชั่วโมง ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมแล้ว
วิธีใหม่ของการใช้ยาคุมฉุกเฉิน สามารถรับประทานครั้งละ 1.5 มิลลิกรัมครั้งเดียวได้นะคะ ดังนั้น ถ้าใช้เมเปิ้ลฟอร์ท ก็จะรับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว
แต่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น ๆ ก็รับประทานแบบ 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียวนั่นเองค่ะ
และจะต้องรับประทานโดยเร็วหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ป้องกันไม่ได้ เช่น ถูกข่มขืน หรือป้องกันแล้วเกิดความผิดพลาด เช่น ถุงยางฉีกขาด ยิ่งรับประทานเร็วก็ยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
โดยถ้ารับประทานภายใน 72 ชั่วโมง จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ที่เวลา 72 - 120 ชั่วโมงนะคะ
แต่อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นั่นหมายถึง แม้จะรับประทานเร็วแค่ไหน ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% จึงไม่ควรนำมาใช้บ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เพราะจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่าค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ต้องกินแค่เม็ดเดียว หลังที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)