อยากจะทราบอ่ะค่ะว่าจะท้องไหม คือมีอะไรกับแฟนวันที่ 16 มิ.ย ที่ผ่านมา ใส่ถุง และกินยาคุมฉุกเฉิน กันถุงรั่วแต่ดันกินยาคุมไปเม็ดเดียวเพราะลืมกินอีกเม็ด พอมาวันที่ 4 ก.ค มีอาการมึนหัวเล็กน้อย รู้สึกอยากจะอาเจียนจุกอยู่บริเวณคอ แต่ไม่ได้รู้สึกคลื่นไส้ตลอดเวลา ผ่านมาถึงวันที่5 ก.ค อาการทั้งหมดหายไป แต่กลายเป็นท้องอืดแน่นท้องแทน ไม่มีอาการคัดเต้านม หัวนมขยายแต่อย่างใด กำลังสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ไหม ช่วงนี้นอนดึกมากๆ จะเกี่ยวกับการนอนไม่พอไหมคะ

1. การใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่ครบขนาด ก็จะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ฉุกเฉินค่ะ ดังนั้น ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะขึ้นอยู่กับว่าถุงยางรั่วหรือไม่ ถ้าใช้ได้ถูกต้องและถุงยางไม่รั่วซึม ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อย เพียงแค่ 2% ค่ะ

หากต้องการทราบชัดเจนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนวันพรุ่งนี้นะคะ (เพราะห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์เกิน 14 วันแล้ว ก็สามารถตรวจได้ค่ะ)

2. อาการที่เกิดขึ้น ไม่ใช่อาการจำเพาะของการตั้งครรภ์ หมายถึงอาจเกิดจากสาเหตุใดก็ได้ ดังนั้น เพื่อจะทราบแน่ชัดว่าเป็นอาการของโรคอะไร และเกิดจากสาเหตุใด แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมนะคะ เพื่อจะได้รับการรักษาตามเหมาะสมค่ะ

โดยปกติแล้วการคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัย ถือเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้วครับ ถ้าไม่มีการแตกรั่วของถุงยางอนามัย และใส่ได้ถูกวิธี โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์จะมีเพียง 2% เท่านั้น
ดังนั้นเมื่อได้มีการใช้ถุงยางอนามัยแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ ยกเว้นเห็นว่าถุงยางอนามัยจะมีการรั่วจริงๆ
ในกรณีนี้จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ค่อนข้างน้อยครับ ถึงแม้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ไม่ถูกต้องก็ตาม

ส่วนอาการคลื่นไส้อาเจียนนั้นมักเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่าครับ เช่น อาหารเป็นพิษ กระเพาะอักเสบ กรดไหลย้อน
โดยทั่วไปแล้วอาการแรกที่จะบ่งบอกว่ามีการตั้งครรภ์ คือ การขาดประจำเดือน ส่วนอาการคลื่นไส้อาเจียนหรือแพ้ท้องนั้นมักเกิดเมื่อมีการตั้งครรภ์ไปแล้ว 2-3 เดือนครับ

อย่างไรก็ตามถ้าไม่แน่ใจ หรือต้องการทราบแน่นอนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วัน และใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ