สวัสดีค่ะ หนูอายุ 20 ปีค่ะ มีความจำเป็นต้องนั่งทำงานหน้าคอมตลอด วันละ 6-8 ชั่วโมง ช่วงสองอาทิตย์ให้หลังนี่ นั่งทำงานนิดหน่อยก็ปวดแล้ว (ปวดเน้นไปทางด้านขวา) ลองยืดๆ กระดูกก็ดังก๊อกๆบ่อยมากเลยค่ะ รู้สึกขาข้างขวาชา ไม่ว่าจะนอนหงาย นอนคว่ำ นั่งเฉยๆ ยืน ก็รู้สึกชา ตอนแรกคิดว่า น่าจะเป็นเพราะลงน้ำหนักผิดข้างหรือป่าว แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะ มันอันตรายหรือป่าวคะ

สวัสดีครับ ถ้าจากข้อมูลเบื้องต้น อาการดังกล่าวอาจจะเกิดจากการที่นั่งทำงานเป็นเวลานานเกินไปครับ การนั่งผิดท่าทางเป็นต้นครับ จึงทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบและเกิดอาการดังกล่าวได้ครับ แนะนำว่าควรปรับท่านั่งให้เหมาะสมครับ และควรออกกำลังกายเป็นเป็นประจำครับ กล้ามเนื้อจะได้มีการยืดตัวเป็นต้นครับ

สวัสดีครับ
การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานนั้นอาจมีผลทำให้กล้ามเนื้อหลังมีอาการเกร็งตัวมากผิดปกติและทำให้มีอาการปวดหลังได้ครับ แต่โดยปกติแล้วอาการปวดหลังจากสาเหตุนี้จะไม่ทำให้มีอาการขาชา

การที่มีอาการขาชาร่วมกับมีอาการปวดหลังนั้นอาจบ่งบอกถึงการที่เส้นประสาทบริเวณไขสันหลังถูกกดทับได้ โดยอาจมีสาเหตุมาจากหมอนรองกระดูกหรือกระดูกสันหลังที่ผิดปกติก็ได้ครับ

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อเพื่อตรวจประเมินอาการหาสาเหตุเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาต่อไปได้อย่างเหมาะสมครับ

สวัสดีค่ะ อาการที่กล่าวมาข้างต้น สามารถเกิดได้หลายสาเหตุ
1.โรค Office Syndrome ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานหน้าคอมเป็นเวลานาน และไม่มีการขยับร่างกาย หรือ ยืดเส้นยืดสาย ท่าทางในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งหลังค่อม ท่าก้มหรือเงยคอมากเกินไป ซึ่งสามารถเกิดกล้ามเนื้อบริเวณหลังอักเสบ หรือ เกิดความตึงตัวของเส้นประสาทได้ การรักษา อาจต้องพบแพทย์ ทานยาบรรเทาอาการปวด และทำกายภาพ นอกจากนี้ ควรมีการผ่อนคลายเป็นระยะๆ ขณะทำงานเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึงเกินไป
2.โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จะมีอาการปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้าซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมาก และจะมีอาการที่ขาร่วมด้วยคือ มีอาการปวด ชา หรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณขา สาเหตุ เกิดจากการยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ น้ำหนักตัวที่มากเกินไป นั่งทำงานด้วยอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนานๆ เป็นต้น การรักษา หากไม่รุนแรงอาจใช้ยาแก้ปวด บรรเทาและทำกายภาพ หากมีอาการรุนแรงมากขึ้น แพทย์ก็อาจพิจารณาผ่าตัดค่ะ

ดังนั้นแนะนำให้พบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการที่เป็นและรักษาได้ถูกโรคค่ะ และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง ก่อนที่อาการของโรคจะรุนแรงขึ้นค่ะ โดยพยายามเปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ ผ่อนคลอยกล้ามเนื้อเป็นพักๆ