October 02, 2018 07:44
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
สำหรับอาการของเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ยกตัวอย่างเช่น
เป็นช่วงรอบเดือนปกติของผู้หญิง
จากการเสียดสีจากการมีเพศสัมพันธ์ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวมีการฉีกขาด
ติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก
เนื้องอกของมดลูก
มะเร็งปากมดลูก
การอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรืออวัยวะสืบพันธุ์ เช่น การติดเชื้อรา หนองในแท้/เทียม
ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด เป็นต้นครับ
จะต้องอาศัยประวัติเพิ่มเติม เช่น ก่อนหน้านี้เคยเป็นมาก่อนหรือไม่ หลังจากที่รับประทานยาคุมแล้วเลือดออกเมื่อไหร่ ได้มีเพศสัมพันธ์หรือไม่ หลังจากนั้นมีเลือดออกหรือไม่ วันนึงใช้ผ้าอนามัยกี่แผ่น ชุ่มหรือไม่ มีอาการอื่นๆผิดปกติหรือไม่ เช่น มีไข้ ปัสสาวะแสบขัด ตกขาวผิดปกติ ปวดท้องน้อย ฯลฯ รวมถึงแพทย์จะต้องทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติมด้วยครับ โดยเฉพาะการตรวจภายใน เมื่อเจอความผิดปกติบางอย่างก็จะพอบอกสาเหตุได้ เช่น ตรวจแล้วพบว่ามีหนองไหลออกจากช่องคลอด เนื้อเยื่อมีการอักเสบบวมแดง อาจสงสัยว่ามีการิตดเชื้อหนองใน หรือตรวจภายในแล้วพบว่ามีก้อน/ติ่งเนื้อที่บริเวณปากมดลูก อาจสงสัยมะเร็งปากมดลูก หรือมดลูกโตมีขนาดมากกว่าปกติ มีประจำเดือนมาเยอะและมานานมากกว่าปกติ มีปวดท้องมากในช่วงมีประจำเดือน อาจสงสัยว่าเป็นเนื้องอกมดลูกได้ เป็นต้นครับ สามารถเข้ารับการตรวจได้ทุกโรงพยาบาล หรือถ้าเป็นคลินิกแนะนำให้ตรวจกับคลินิกนรีเวชจะดีที่สุดครับ เพราะส่วนใหญ่จะมีหมอสูตินรีเวชโดยเฉพาะ หรือคลินิกเวชกรรมทั่วไป ไม่มีอุปกรณ์หรือไม่สามารถตรวจภายในได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
พอดีแฟนผมฉีด ยาคุม มา1เดือนแล้ว(ไม่เคยฉีดก่อน) อายุ27ปี แล้วเลือดสดออกตลอดเลยครับ ปริมาณไม่มากแต่ไม่น้อย อ่านในบทความมาเค้าบอกอาจจะเป็นside effect หรือแพ้ยาก็ได้ แล้วกรณีนี้มียาหยุดหรือปล่าวครับ แล้วถ้าต้องพบแพทย์เป็นคลินิคเวชกรรมทั่วไปได้ไหมหรือต้องนรีเวชเท่านั้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)