February 22, 2019 00:59
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการที่เล่ามานั้นมีอาการที่เข้าได้กับการเป็นโรคซึมเศร้าค่อนข้างมากครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
โรคซึมเศร้านั้นมีสาเหตุมาจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไป ทำให้เกิดอารมณ์เศร้าและอาการในด้านลบอื่นๆขึ้นมาโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ และอาจไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งถ้าหากได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองเหล่านี้ ก็จะได้ผลการรักษาที่ดีมากกว่าการไม่ได้รับการรักษาและปล่อยอาการทิ้งไว้ครับ
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมได้ครับ ทั้งนี้บางครั้งการบอกให้คนที่บ้านทราบและเข้าใจอาการก็อาจมีส่วนช่วยให้อาการดีขึ้นได้เช่นกัน เพราะถ้าหากมีคนเข้าใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือก็จะเป็นผลดีกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นครับ
หรือในกรณีที่ทางบ้านไม่เข้าใจ ไม่พร้อมที่จะสนับสนุนก็ยังอาจไปพบแพทย์ด้วยตนเองก่อนได้ ในตอนนี้หมออยากให้คุณได้ดูแลความรู้สึกของตนเองเป็นหลักมากกว่าที่จะสนใจความรู้สึกของคนอื่นครับ
ในระหว่างนี้หมอก็แนะนำว่าควรหากิจกรรมที่ผ่อนคลายให้ตัวเองได้ทำ ปล่อยวางเรื่องบางเรื่องลงบ้าง พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะมีส่วนช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้บ้าง แต่ถ้าหากอาการเหล่านี้เกิดจากโรคซึมเศร้าจริงการรักษาด้วยยาก็จะยังมีความจำเป็นอยู่ครับ
นอกจากนี้ก็ยังสามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต เบอร์ 1323 เพื่อขอคำปรึกษาในเบื้องต้นก่อนได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาก็จะเห็นได้ว่าอาการหลายๆส่วนของคุณก็จะตรงกับเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้านะครับ โดยคุณสามารถลองเทียบอาการตนเองกับข้อมูลที่คุณหมอให้ไว้ได้นะครับ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้หากคุณอยู่ในภาวะเครียดหรือกดดันซึ่งตอนนี้อยู่ ม.6 ผมเข้าใจว่าก็จะมีเรื่องของการสอบเข้าต่างๆที่เข้ามาเป็นตัวทำให้หนักใจยิ่งขึ้นใช่ไหมครับ ซึ่งในเบื้องต้นก็อยากจะแนะนำเช่นเดียวกับคุณหมอในเรื่องของการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินเพื่อที่จะหาวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปนะครับไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรับประทานยาหรือว่าการทำจิตบำบัดก็ตาม ซึ่งน่าจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์และอาจจะทำให้คุณมีสมาธิในการจอจ่อกับหลายๆเรื่องมากขึ้นครับ
ซึ่งในปัจจุบันการเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาในบางโรงพยาบาลไม่จำเป็นจะต้องมีผู้ปกครองไปด้วยครับถึงแม้ว่าจะอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่อย่างไรก็ตามผมก็อยากแนะนำให้ลองพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ดูเมื่อรับการรักษาถึงจุดหนึ่งนะครับ เพราะการต่อสู้กับโรคทางจิตเวชนั่น การได้รับการสนับสนุนจากคนในครอบครัวก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปได้ครับ
นอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกันนะครับ การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งหากคุณมีกิจกรรมเหล่านี้ทำเป็นกิจวัตรแล้ว อารมณ์โดยรวมหรือจิตใจของคุณก็จะค่อยๆมีความเข็มแข็งขึ้นทีละนิดทีละนิดได้ครับ
สุดท้ายนี้หากว่าความเศร้าตรงนี้เริ่มส่งผลในแง่ที่ไม่ดีกับคุณเยอะขึ้น แต่คุณยังไม่ต้องการที่จะเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ลองติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่รับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเครียด และการดูแลสุขภาพจิต ตลอด 24 ชม. ได้ครับ แต่อาจจะมีบางช่วงเวลาที่รอสายนานหน่อยนะครับ ตามช่วงเวลาที่คุณโทรเข้าไป หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เบื้องต้นลองสำรวจอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดีจำเป็นต้องใช้ยาและการทำจิตบำบัดนะคะ โอกาสที่ซึมเศร้าจะหายได้เอง หรือ การพยายามปรับความคิดของตัวเองโดยที่ไม่ได้พบจิตแพทย์นั้นอาจจะทำให้อาการดีขึ้นได้ยาก และอาจส่งผลให้อาการเรื้อรังและพัฒนารุนแรงมากขึ้นจนยากแก่การรักษาได้ค่ะ
ในกรณีของหนู เรียน ม. 6 หากครอบครัวไม่เปิดใจเกี่ยวกับการไปพบจิตแพทย์ ขั้นแรกพี่อยากให้หนูไปพบจิตแพทย์ด้วยตัวเองก่อน ให้คุณหมอประเมินอาการ วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด หากประเมินแล้วพบว่าครอบครัวต้องมีส่วนร่วมในการรักษา คุณหมอจะขอพบญาติหรือผู้ปกครองทีหลังได้ค่ะ แต่หากหนูไม่สะดวกที่จะแจ้งให้ครอบครัวทราบ หนูสามารถแจ้งเหตุผลให้คุณหมอทราบได้นะคะ คุณหมอจะได้หาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
กลัวตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็สับสนว่าจะเป็นโรคเครียดหรือเปล่าน่ะค่ะ สังเกตตัวเองแล้ว ลักษณะอาการมีประมาณนี้ค่ะ เบื่อหน่าย ไม่สบายใจ รู้สึกท้อแท้ตลอดเวลา หลับยาก แต่พอได้หลับก็หลับมากเกินไป เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา รู้สึกผิดหวัง คิดว่าต้องทำล้มเหลวอีกแน่นอน (อยู่ม.6ค่ะ) ขี้หลงขี้ลืมบ่อย ต้องจดไว้ตลอด ทำอะไรเชืองช้า กระสับกระส่าย อาการประมาณนี้ค่ะ หนูควรทำอย่างไรดีคะ ไม่อยากพบแพทย์เท่าไหร่ เพราะหนูไม่อยากให้ทางบ้านทราบด้วยค่ะ มีวิธีแก้ไขด้วยตนเองไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)