สวัสดีค่ะหมอ หนูมีคำถามอยากที่จะปรึกษา คือช่่่่่วงนี้หนูเครียดมากๆเครียดจนร้องไห้บ่อย แล้วพอหลังร้องไห้เสร็จอ่ะค่ะ หนูรู้สึกว่าจังหวะหายใจหนูช้ามากๆ นับครั้งได้เลยค่ะว่าหนูหายใจกี่ครั้ง แล้วพอลองเงียบๆ จับจังหวะว่าตรงหัวใจมันเต้นช้าแต่เต้นหนักมากอ่ะค่ะ จับปุ้บคือรู้สึกได้เลยว่าเต้นช้าและหนักมาก เสียงมับดังตุ้บๆแบบหนักๆอ่ะค่ะ อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ

ความเครียด จะส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติได้หลายระบบ ได้แก่ ระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ระบบการย่อยอาหาร (กระเพาะหลั่งกรดเยอะ อาหารไม่ย่อย) ระบบภูมิต้านทานโรคต่ำลงเจ็บป่วยได้ง่าย เป็นต้น

ในกรณีที่เครียดบ่อยๆ แนะนำให้ผ่อนคลายความเครียด ด้วยการออกกำลังกาย หากิจกรรมที่ชอบทำ การหาที่ปรึกษาพูดคุยระบายความรู้สึกออกมา การกำหนดลมหายใจเข้าออก ช้าๆ ลึกๆ ปรับความคิดแง่บวก

หากลองปรับแล้วอาการไม่ดีขึ้น เครียดง่ายบ่อยครั้ง ต่อเนื่องนานเกิน 1 เดือน แสดงว่าปรับตัวกับความเครียดนั้นไม่ได้ ควรพบแพทย์ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ

สวัสดีครับ

อย่างที่พี่นักจิตวิทยาได้บอกไว้นะครับว่าการอยู่ในภาวะที่มีความเครียดสูงมักจะส่งผลต่อสุขภาพกายทำให้การทำงานของระบบต่างๆในร่างกายถดถอยลงไป พร้อมทั้งอาจจะทำให้การทำงานของหัวใจและหลอดเลือดเกิดการทำงานที่ผิดแปลกไปจนเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดหัว โรคความดัน โรคหัวใจ และโรคไมเกรนได้ครับ

แต่อาการหัวใจเต้นช้าตรงนี้ อาจจะต้องลองให้คุณหมอได้ตรวจดูเพราะตามปกติแล้วการที่หัวใจเต้นช้า จะหมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงทำให้เลือดสูบฉีดไปได้อย่างทั่วถึงภายในการเต้นไม่กี่ครั้ง และโดยส่วนมากเมื่อมีอารมณ์เศร้ามากๆ หรือโมโหมากๆ ก็มักจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นครับไม่ใช่ช้าลง ดังนั้นหากรู้สึกเป็นกังวลกับอาการหัวใจเต้นช้าลง อาจจะต้องลองเข้าไห้คุณหมอได้ตรวจดูนะครับ

ซึ่งการบรรเทาความเครียดลงก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ไม่ควรมองข้าม โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดในตัวคุณลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวอีกด้วยครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าความเครียดยังคงส่งผลกับตนเองเยอะ ก็อยากให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปครับ