รบกวนคุณหมอขอสอบถามค่ะ...มีอาการเป็นตกขาวสีเขียวค่ะบางทีก้มีกลิ่นเคาวเเละไม่มีกลิ่นหรือบางทีก้ไม่มีตกขาวเลยและปวดท้องด้านซ้ายมากเป็นทุกเดือนก่อนมีประจำเดือน 1-2 อาทิตย์ พอไปหาคุณหมอที่ รพ.(ใช้บัตรทอง)จะให้ยาฆ่าเชื้อมาทานและฉีดยาแก้อักเสบที่สะโพก 1 เข็ม คุณหมอบอกว่าติดเชื้อ อาการก้จะหายบ้างไม่หายบ้างแต่พอหลังๆเริ่มไม่หายเเละปวดหนักมากขึ้นค่ะ เป็นแบบนี้มา 1-2 ปี คราวนี้เลยลองเปลี่ยนมาหาคุณหมอที่อนามัย คราวนี้มาด้วยอาการปวดท้องแต่ไม่มีตกขาว คุณหมอให้ตรวจฉี่และเหมือนน่าจะเป็นท่อปัสสาวะอักเสบผลออกมาคือเป็นค่ะคุณหมอเลยให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน 1 อาทิตย์ พอครบก้กลับมาตรวจผลยังไม่ลงค่ะและมีอาการเพิ่มคือตกขาวสีเขียวคุณหมอเลยให้ยามาทานเป็นเม็ดสีส้มค่ะและให้ฉีดยาเข้าเส้นเลือด 3 วัน หลังจากฉีดยาวันเเรกอาการปวดหายไปค่ะ ตกขาวก้เริ่มหายไป และพอมามีเพศสัมพันธ์กับเเฟนเช้ามาก้ปวดท้องหน่วงๆและเริ่มมีตกขาวสีเขียวออกมาเวลาปัสสาวะเเละเอากระดาษทิชชู่เช็ดก้ติดกระดาษมานิดนึงเเต่ไม่มีกลิ่นค่ะไม่คันอยากสอบถามว่าอาการที่เป็นเป็นมาจากแฟนหรือเปล่าคะคัณหมอที่อนามัยเเนะนำให้แฟนไปตรวจด้วยว่ามีติดเชื้ออะำรด้วยหรือเปล่าและอยากทราบค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะและมีโอกาสหายมั้ยคะ ดิฉันได้แนบยาฉีดและยากินที่อนามัยให้มาด้วยค่ะ แต่ยาตัวที่ทานเเล้วไม่ได้ผลทิ้งห่อยาไปแล้วค่ะ รบกวนคุณหมอให้คำแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ จากผลที่แนบมา แพทย์ระบุว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง และมีอาการตกขาวสีเขียว ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะติดเชื้อ จากคำถามที่ว่า อาการที่เป็น ติดจากแฟนได้หรือไม่ ตอบว่า สามารถติดจากแฟนได้ค่ะ เนื่องจากขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดและช่องปัสสาวะอยู่ใกล้กันมากค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณช่องคลอดและท่อปัสสาวะ ทำให้เชื้อโรคเข้าไปสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายขึ้นค่ะ และอีกกรณีการมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆถี่ๆ หรือรุนแรง ก็สามารถให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ค่ะ
ขั้นแรก แนะนำให้รับยาฆ่าเชื้อให้ครบตามแพทย์สั่งค่ะ นอกจากนี้ ควรปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ
1.งดเพศสัมพันธ์กับแฟนไปก่อน จนกว่าจะหายค่ะ
2.ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ
3.ดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้ง หลังปัสสาวะหรืออุจจาระ ด้วยน้ำเปล่า โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง งดใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นค่ะ
4.หลังมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ต้องลุกปัสสาวะทันที ไม่ปล่อยค้างไว้และทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศด้วย
5.ช่วงมีประจำเดือน แนะนำให้เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทุก 4 ชั่วโมง
6.แนะนำฝ่ายชาย ควรดูแลรักษาความสะอาดอวัยวะเพศให้สะอาดทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ

นอกจากนี้แนะนำให้พบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจภายในค่ะ เนื่องจากมีอาการตกขาวสีเขียว เพื่อวินิจฉัยและรักษาให้ถูกต้อง อาจมีภาวะมดลูกหรือช่องคลอด อักเสบ หรือมีอาการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการตกขาวได้ค่ะ

ส่วนจะหายขาดหรือไม่ ส่วนใหญ่หากได้รับเชื้ออีก ก็สามารถเกิดโรคซ้ำๆได้ ขึ้นกับวิธีปฏิบัติตัวด้วยได้ค่ะ หากยังมีพฤติกรรมเสี่ยงก็สามารถเป็นซ้ำได้อีกค่ะ