September 15, 2018 10:10
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากแน่ใจว่าเลือดที่ออกมาในวันที่ 6 ส.ค. เป็นประจำเดือนจริงๆก็เป็นการบอกว่าไม่น่ามีการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นครับ
ถ้าหากรับประทานยาคุมกำเนิดหลังจากหมดประจำเดือนไปแล้วจะต้องรับประทานยาต่อเนื่องกันอย่างน้อย 7 วันยาคุมจึงจะเริ่มป้คการตั้งครรภ์ได้ โดยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 91-99.7% ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยา ยิ่งรับประทานได้สม่ำเสมอมากประสิทธิภาพยาก็จะยิ่งค่อนไปทางสูง
ดังนั้นถ้าหลังประจำเดือนมาจนถึงวันที่เริ่มรับประทานยาคุมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย และภายใน 7 วันแรกของการรับประทานยาคุมก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เช่นกัน โอกาสตั้งครรภ์ก็มีน้อยครับเนื่องจากหลังจากนั้นยาคุมกำเนิดจะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้เต็มที่แล้ว
หลังจากนี้ก็แนะนำให้รับประทานยาคุมอย่างสม่ำเสมอต่อไปครับ และคอยสังเกตว่าประจำเดือนจะมาตามเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ คือ
- ถ้ารับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้น 7 วันก่อนเริ่มรับประทานยาแผงใหม่
- ถ้ารับประทานยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง
ถ้าประจำเดือนมาตามนี้ก็มั่นใจได้ว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ หมอขอแยกตอบทีละประเด็นนะคะ
- การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดไปแล้ว 1 สัปดาห์ก็เริ่มให้ผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ถ้ารับประทานสม่ำเสมอและตรงเวลา และไม่ลืมทานยา ประสิทธิภาพการคุทกำเนิดประมาณ 92 เปอร์เซน
- การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้สอดใส่ ถึงแม้นิ้วจะเปื้อนอสุจิ แต่อสุจิตายค่อนข้างง่าย โอกาสในการตั้งครรภ์ค่อนข้างต่ำค่ะ
- ถึงแม้การคุมกำเนิดในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ยังไม่มีการคุมกำเนิดวิธีใดที่คุมได้ 100 เปอร์เซน สมารถเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดด้วย2 วิธีร่วมกัน เช่น สวมถุงยางอนามัยร่วมกับ ใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด
- หากประจำเดือนไม่มาตามกำหนด ร่วมกับ กังวลว่าจะตั้งครรภ์แนะนำว่าควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประจำเดือนมาวันที่ 6/8/61 เริ่มกินยาคุมเเบบ 28 เม็ดวั้ที่ 28/8/61 (กินหลังประจำเดือนมา) เเล้ววันที่ 11/9/61 มีเพศสัมพันธ์เเบบหลั่งในกับวันที่ 12/9/61 กินยาคุมเเบบ 28 เม็ด มาเเล้ว 15 วันจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไหมครับ? ก่อนหน้านี้วันที่ 1/8/61 ได้กินยาคุมฉุกเฉินเลยทำให้ประจำเดือนมาวันที่ 6/8/61 (ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เเค่นำนิ้วที่เปื้อน”อสุจิ”นำไปเเย้ในช่องครอง)จะเป็นอะไรไหมครับ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)