December 28, 2018 11:50
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
ภาวะผิดปกติของประจำเดือนมีดังนี้ค่ะ
1)ภาวะประจำเดือนผิดปกติที่เกิดขึ้นในสตรีที่เริ่ม/ใกล้หมดประจำเดือน เป็นภาวะที่เกิดจากการไม่ตกไข่ จึงทำให้ไม่มีการสร้างแหล่งผลิตฮอร์โมนโปรเจสเทอร์โรน ดังนั้นร่างกายจึงมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกถูกกระตุ้นให้หนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีประจำเดือนในช่วงแรก ต่อมาเมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวมากก็จะเกิดการหลุดลอกได้ง่าย หากการหลุดลอกเกิดขึ้นเพียงบางจุดก็จะทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย หากเกิดการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นบริเวณกว้างก็จะทำให้เลือดออกในปริมาณมาก โดยพบได้บ่อยในสตรีที่เริ่มมีประจำเดือนโดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีแรกหลังจากเริ่มมีประจำเดือน
หรืออาจจะพบภาวะดังกล่าวได้ในสตรีวัยเจริญพันธ์ซึ่งมักจะสัมพันธ์กับภาวะถุงน้ำในรังไข่ซึ่งทำให้เกิดการไม่ตกไข่แบบเรื้อรัง อาจมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ขนดก เป็นสิว ผิวมันได้ค่ะ การรักษาของชนิดนี้คือการปรับระดับฮอร์โมนค่ะ
2)ภาวะที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอแต่มีภาวะผิดปกติขัดขวางการมีประจำเดือน ได้แก่ การตั้งครรภ์ ภาวะการติดเชื้อโพรงมดลูก ซึ่งแนะนำใหแยกภาวะการตั้งครรภ์ออกก่อนโดยการตรวจการตั้งครรภ์ จากที่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์ค่ะ โดยตรวจหลังมีเพศสัมันธ์ประมาณ2สัปดาห์ เพราะการใส่ถุงยางอนามัยไม่ได้คุมกำเนิดได้100%ค่ะ
3)ภาวะความผิดปกติอื่นๆ เช่น ภาวะโรคเรื้อรัง เช่น ภาวะเครียดทั้งร่างกาย เช่นรับประทานอาหารไม่ได้ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว และทางจิตใจค่ะ
แต่สิ่งที่ควรทำสิ่งแรกคือแยกเรื่องภาวะการตั้งครรภ์ สามารถไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจได้ค่ะ หากไม่ตั้งครรภ์ก็อาจจะรอเวลาซักพักถ้าไม่มีอาการผิดปกตินอกเหนือจากเรื่องประจำเดือนนะคะ อาจจะมีประจำเดือนเลื่อนได้ ส่วนยาเลื่อนประจำเดือนให้เร็วไม่มี มีแต่ยาเลื่อนออกค่ะ หากไม่พบการตั้งครรภ์สามารถขอรับยาเลื่อนประจำเดือนออกได้หากมีความจำเป็นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องโดยไม่มีการแตกรั่วของถุงยางอนามัยจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีการขาดประจำเดือนไปหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจตามนี้แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ การขาดประจำเดือนก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ทั้งนี้หมอไม่แนะนำให้ซื้อยาใดๆมารับประทานเองครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ ตอนนี้เครียดเรื่องประจำเดือนค่ะ ขาดมาประมาณ6วันแล้ว ปกติขาดประมาณ3วันค่ะ เดือนนี้เครียดเป็นพิเศษด้วยค่ะ เพราะเป็นเดือนสอบ นอนเช้าตื่นตอนเย็นเป็นเวลาเกือบอาทิตย์ค่ะ เดือนที่แล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนช่วงหลังหายเป็นประจำเดือนได้ 1 วันค่ะ แต่ใส่ถุงยางป้องกันตลอดนะคะ อยากรู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไรค่ะ อาการช่วงนี้คือปวดท้องเหมือนกำลังจะเป็นประจำเดือนค่ะ มีตกขาว เหมือนก่อนเป็นประจำเดือนทุกครั้ง แต่รู้สึกครั้งนี้ปวดท้องนานกว่าปกติด้วยค่ะ เจ็บหน้าอกค่ะ ยังไม่มีอาการนอกเหนือจากนี้ อาการแบบนี้อาจจะท้องได้หรือเปล่าคะ แต่ถ้าเกิดจากการเครียดเฉยๆควรทานอะไรให้ประจำเดือนมาเป็นปกติคะ ทานยาสตรีอะไรพวกนี้ได้หรือเปล่าคะ ทานแล้วประจำเดือนจะมาได้เลยมั้ยคะ ช่วงนี้ต้องเดินทางด้วยค่ะ อยากให้รีบเป็นเพราะกลัวทำกิจกรรมไม่สะดวก มีวิธีช่วยมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)